ถ้าคุณป็นคนนั้น หรือมีเพื่อน ลูก หลาน แฟน ที่เพิ่งเรียนภาษาอังกฤษ หรือเรียนมาพักนึงแล้ว แต่ยังฟัง และอ่านภาษาอังกฤษไม่ค่อยคล่อง

โพสต์นี้เหมาะสำหรับคุณเลยค่ะ

เพราะนอกจากการเรียนคอร์สภาษาอังกฤษเป็นประจำแล้ว การอ่านนิทานเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้คุณก่งภาษาได้เร็วขึ้น

ถึงแม้ว่าเบญจะเคยรวบรวมหนังสือนิทานภาษาอังกฤษไว้ให้แล้ว

แต่ก็เข้าใจว่าบางคนไม่ได้ชอบอ่านเป็นเล่ม แต่ชอบอ่านบนมือถือ หรือบนคอม โพสต์นี้ก็เลยจะตอบโจทย์มากกว่า

นิทาน 1 เรื่อง ใช้เวลาอ่าน หรือฟังไม่เกิน 5 นาทีถ้าคุณอ่านก่อนนอนทุกวัน รับรองได้เลยว่า ภาษาอังกฤษของคุณจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน

1. Story Berries

Story Berries เป็นเว็บนิทานภาษาอังกฤษที่เหมาะสำหรับ อายุ 0-12 ปี ในแต่ละระดับอายุก็จะมีความยาว และความยากของเนื้อหาแตกต่างกันไป

เลือกคำว่า CHOOSE BY… บทแถบเมนู เพื่อเลือก ระดับอายุ ความยาว ประเภท และหัวข้อของนิทานที่เราอยากอ่านค่ะ

ความยาวของนิทาน (Time) จะมีตั้งแต่ 5, 10, 15, 20+ นาที ถ้าวันไหนมีเวลาว่างเยอะ ก็ลองเลือกความยาวมากหน่อยก็ได้

ในส่วนประเภทนั้น (Type) เค้าก็มีให้เลือกหลายแบบเลยค่ะ เช่น หนังสือที่มีภาพ หนังสือการ์ตูน หนังสือเป็นบท ๆ

และในเว็บนี้ก็ยังมีหัวข้อ (Topic) เยอะมาก ๆ เลยค่ะ ให้เลือกอ่าน คุณจะได้อ่านนิทานภาษาอังกฤษในหัวข้อที่ตัวเองสนใจได้อีกด้วย

เป็นเว็บนิทานภาษาอังกฤษ ที่มีตัวเลือกให้หลากหลายจริง ๆ เหมาะทั้งกับคนที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ไปจนถึงคนที่เก่งภาษาอังกฤษแล้ว

2. Stories For Kids

เว็บนี้ได้แบ่งนิทานออกตามช่วงกลุ่มอายุให้แล้ว 3-6 ปี, 7-10 ปี, 11-13 ปี และ 14-18 ปี และในตามช่วงอายุ ก็จะมีหัวข้อของนิทานต่างกันไป

และในทุกหัวข้อ เค้าก็จะอธิบายว่าคืออะไร จะเป็นนิทานประมาณไหน

เมื่อเราคลิกเลือกหนังสือที่อยากอ่านแล้ว ก็คลิก Read now และเริ่มอ่านได้เลย

โดยจะเป็นเหมือนหนังสือจริง ๆ และก็มีรูปภาพประกอบ คลิกด้านล่างเพื่อเปลี่ยนไปหน้าถัดไปค่ะ เหมือนกับการอ่านหนังสือจริง ๆ น่ารักมากเลย

และไม่ได้แค่มีภาพ หรือลูกเล่นแบบนี้สำหรับนิทานของเด็กเท่านั้นนะ มีอยู่ในทุกช่วงวัยของนิทานเลยค่ะ ทำให้รู้สึกอยากอ่านมาก ๆ เลย

ปล.มีเรื่องผี ลึกลับด้วยนะคะ ถ้าคุณชอบอ่านแนวนี้ ก็จัดไปเลยค่าาา บรื๋อออ 👻

3. Bedtime Stories Collection

เว็บนี้จะไม่มีนิทานอยู่บนเว็บ แต่จะให้เราโหลดเป็นแอพพลิเคชั่นลงบนอถือหรือบนคอมพิวเตอร์ของเรา ใช้ได้ทั้ง Android และ Apple

จากที่ดูตัวอย่างแล้ว น่าจะเป็นนิทานที่มีรูปภาพสวย ๆ ประกอบ คนไหนที่ไม่ชอบอ่านแต่ตัวหนังสือ รู้สึกเบื่อง่าย ก็อ่านจากที่นี่ได้เลย

4. Classic Bedtime Stories

สำหรับเว็บนี้นั้น ไม่ได้บอกช่วงอายุไว้ให้เลือก ก็จะเป็นนิทานคลาสสิคทั่วไปเลย ที่เราอาจจะเคยได้ยินมาก่อน

ข้อดีของการอ่านนิทานคลาสสิคก็คือ คุณจะได้เรียนรู้วัฒธรรมของประเทศนั้น ๆ ไปด้วย

เหมือนกับการอ่านนิทานอีสปของไทย ที่บอกถึงเรื่องความเชื่อ หรือการเป็นอยู่ หรือความคิดของคนไทยออกมาได้อย่างดีเลย

การรู้จักวัฒนธรรมของภาษา หรือประเทศนั้น ๆ ก็จะช่วยให้เราเรียนภาษาได้ง่ายขึ้น และรู้ว่าเค้าคิดอะไรตอนที่เค้าพูดแบบนี้

เนื้อเรื่องก็ค่อนข้างยาวค่ะ เบญคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบอ่าน และมีพื้นฐานภาษาอังกฤษพอสมควร-เก่ง

5. Story Time

วู้ฮู้ และแล้วก็มาถึงกับนิทานที่ คุณเปิดฟังได้เลย ไม่ต้องอ่าน

เหมาะสำหรับคนที่อาจจะเหนื่อยจากงานมาทั้งวันแล้ว แค่อยากฝึกการฟังภาษาอังกฤษวันละ 5 นาที เว็บนี้เหมาะกับคุณเลยค่ะ

โดยเราการเลือกเรื่องที่เราอยากฟัง เมื่อคลิก Listen เค้าก็จะบอกว่านิทานเรื่องนี้เหมาะกับอายุเท่าไหร่ ๆ บ้างค่ะ

นิทานจากเว็บนี้ จะมีแค่ audio เสียง ไม่มีเนื้อเรื่องที่เป็นคำบรรยาย หรือวีดีโอให้ดู

มีหลายเรื่องมาก ๆ เลย ลองเข้าไปเลือกเรื่องที่อยากฟังดูนะคะ และอย่าลืมของจับคำศัพท์ และลองแปลด้วย

6. Free Children Stories

เว็บนี้เป็นอีกหนึ่งเว็บเลยที่น่าสนใจ เปิดมาก็เจอกับหนังสือให้เลือกอ่านมากมาย

ไม่ได้บอกเลเวลหรืออายุ แต่เท่าที่เบญดูแล้ว ก็น่าจะเป็นเด็กกลาง-โตค่ะ หรือเทียบกับคนที่เพิ่งหัดฟัง อ่าน ภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย-เก่ง

หลังจากที่เลือกนิทานเรื่องที่ชอบแล้ว ก็จะมีเป็นวีดีโอให้ฟัง และก็อ่านได้ด้วยเพราะเค้ามีเนื้อเรื่องอยู่ในวีดีโอนั้นพร้อม และก็รูปภาพด้วย

หรือถ้าอยากอ่านเองไม่ฟังเสียงจากวีดีโอก็เลื่อนลงไปข้างล่างหน่อย จะเจอเนื้อเรื่องของนิทานเรื่องนั้นอยู่ใต้วีดีโอค่ะ อ่านเองได้

เค้าแบ่งเป็นท่อน ๆ ให้แล้ว ถ้าคุณอยากทำความเข้าใจกับเนื้อเรื่องของเรื่องนี้ ก็จะสะดวกมาก ๆ เลยค่ะ

7. Tales From the Lily Pad

ถ้าคุณที่กำลังรอเว็บนิทานที่ฟังเสียงอย่างเดียว ความฝันของคุณเป็นจริงแล้วค่าาาา~

นิทานในเว็บนี้ จะมีแค่เสียงอย่างเดียว เราเลือกนิทานที่อยากฟังได้เลย และก็นอนฟังอย่างสบายใจ อิอิ

มีนิทานหลายเรื่องให้เลือกเลย เหมาะกับคนที่อยากเอาไว้ฝึกฟัง ฝึกหูตัวเองในการฟังภาษาอังกฤษมากขึ้น

โหลดเสียงไว้ฟังออฟไลน์ในเครื่องของตัวเองได้ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์หรือโน๊ตบุ้ค

---

จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับโพสต์แนะนำเว็บนิทานภาษาอังกฤษวันนี้

หวังว่าคุณทุกคนจะได้เจอเว็บที่ตัวเองชอบ และเหมาะกับตัวเอง

ถ้ารู้สึกว่ายังเลือกไม่ได้เลย ว่าจะเอาเว็บไหนดี เบญขอแนะนำให้เลือกสัก 1 เว็บที่รู้สึกว่าชอบที่สุด และเริ่มจากนิทานแค่ 1 เรื่องค่ะ

แต่การอ่านนิทาน เป็นแค่ตัวช่วยที่จะช่วยให้ฟังภาษาอังกฤษเก่งมากขึ้นนะคะ

อย่าลืมหาคอร์สภาษาอังกฤษที่ตัวเองชอบไว้เรียน เป็นคอร์สหลัก เพื่อให้ตัวเองพัฒนาภาษาอังกฤษเร็วมากขึ้นค่ะ