คู่มือเรียนภาษา(อังกฤษ)กับ Glossika ฟังออก พูดชัดไว

By

ยินดีต้อนรับ เข้าสู่ไกด์เรียนภาษากับ Glossika ของเรา!

ถ้าคุณเป็นอีกคนที่ตื่นเต้นกับการเรียนภาษาใหม่ ๆ คุณก็มาถูกที่แล้วค่ะ

Glossika ช่วยทำให้การเรียนภาษาอังกฤษสนุกและมีประสิทธิภาพ ด้วยบทเรียนที่เน้นไปที่การฟังและการพูด

ไกด์เรียนนี้ พวกเราจะไปสำรวจดูกันว่า Glossika มีอะไรดี ๆ ซ่อนไว้ให้เราบ้าง และแบ่งปันเคล็ดลับที่จะช่วยเราได้พัฒนาภาษาอังกฤษกับคอร์สนี้มากที่สุด และเริ่มเก่งภาษาในฝันในวันนี้

ป.ล. บอกไว้ก่อนว่า คู่มือนี้ จะไม่ได้รวบรวมเนื้อหาว่า Glossika คืออะไร หรือว่าข้อดี ข้อเสียมีอะไรบ้าง ถ้าอยากรู้ข้อมูลลึกกว่านี้ เข้าไปอ่าน รีวิว Glossika ฉบับเต็ม ได้เลย

และเบญแนะนำให้คุณเริ่มเรียน และทำตามไปพร้อม ๆ กัน

https://www.youtube.com/watch?v=DIF5m5XtSQo

ลงทะเบียน

1. ไปที่ Glossika

เข้าไปที่ Glossika.com และคลิกทีปุ่มสีเขียว Sign Up ได้เลย

ลงทะเบียนด้วยอีเมลล์ Facebook หรืออื่น ๆ หลังจากนั้นก็จะได้รับอีเมลล์ที่ต้องเข้าไปยืนยันเพราะฉะนั้นมันจำเป็นมากที่จะใส่อีเมลล์ให้ถูกต้อง และใช้อีเมลล์ที่เราใช้จริง ๆ นะ

มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าคุณยังไม่ได้ลงทะเบียน ก็รีบไปทำตามได้เลยนะ เราจะได้ไปลุยกันต่อ

2. เลือกแผนที่อยากเรียน

เมื่อยืนยันการเปิดใช้บัญชีเสร็จแล้ว ตอนนี้พวกเราจะไปเลือกแผนการจ่ายเงินกัน

จริง ๆ แล้ว Glossika มีให้ทดลองเรียนฟรี 7 วัน คุณจะทำแบบนั้นก่อน แล้วค่อยอัพเกรดทีหลังก็ได้ แต่เบญอยากจะโชว์วิธีการซื้อแผนเรียนเพิ่มเติมให้ดูด้วย

Glossika Pricing

ของ Glossika จะมีให้เลือกทั้งแบบรายเดือนและรายปี:

  • Basic เราจะเรียนได้ 1 ภาษา/ครั้ง แต่จะเปลี่ยนภาษาที่อยากเรียนได้ในเดือนถัดไป $16.99/เดือน (ประมาณ 624 บาท) หรือ $159.99/ปี (ประมาณ 5,876 บาท)
  • Pro เราจะเรียนกี่ภาษาก็ได้พร้อมกัน $30.99/เดือน (ประมาณ 1,137 บาท) หรือ $299.99/ปี (ประมาณ 11,014 บาท)

เลือกแผนที่คุณต้องการได้เลย ส่วนเบญจะเลือก Basic เป็นรายปี เพราะจะได้รับส่วนลดถึง 1,612 บาทเลย

หลังจากนั้นก็กรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรือเดบิตของตัวเองลงไป และยืนยันการชำชะเงิน

3. เลือกภาษา

หลังจากชำระเงินเสร็จ เราก็จะกลับไปที่หน้าแรกอีกครั้ง อีกนี้คุณก็เลือกได้เลยว่า อยากจะเรียนบนเว็บ (Learn on web) หรือดาวโหลดแอพเรียนบนมือถือ มีให้เลือกทั้ง android (Google Play) และ IOS (Apple Store)

เราจะเลือกเป็นเรียนบนเว็บก่อนนะคะ

หลังจากนั้นก็เลือกภาษาที่เราอยากเรียนได้เลย Glossika มีให้เลือกเรียนทั้งหมด 65 ภาษา จะเลื่อนดูภาษาที่มีทั้งหมดก่อนก็ได้ เบญจะเลือกเป็น English (US)

ตอนนี้ก็เลือกภาษาที่เราพูด หรือภาษาที่เราอยากให้ประโยคนั้นแปลให้ แน่นอนค่ะ ภาษาไทย

4. เลือกระดับภาษา

ทีนี้ก็จะมีให้เลือก 2 ตัวเลือก ในระดับภาษาที่คุณอยากเรียน คือ

  • ระดับพื้นฐานมาก ๆ หรือไม่เคยเรียนมาก่อนเลย
  • ทดสอบระดับภาษาของตัวเอง (ถ้าไม่แน่ใจหรือไม่รู้เลือกอันนี้ได้เลย)

ถ้าเลือกตัวเลือกแรกก็จะได้เริ่มตั้งแต่ระดับ 1 เลย แต่ถ้าเลือกตัวเลือกที่ 2 ก็จะได้ทำแบบทดสอบ การฟังภาษาอังกฤษและเลือกคำแปล (บางคำแปลก็คล้ายกันมาก)

และเค้าก็จะบอกว่าเราควรเริ่มเรียนจากระดับอะไร

ในขั้นตอนนี้ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะเราเข้าไปเรียนระดับที่ต่ำว่าที่เราได้จากการวัดระดับในครั้งนี้ได้ด้วย

เรียนกับ Glossika

หลังจากที่เรารู้ระดับภาษาของเราแล้ว เราก็จะได้ไปที่หน้า Dashboard ซึ่งเบญจะยังไม่อธิบายอะไรในหน้านี้มาก แต่เดี๋ยวจะอธิบายไว้ในขั้นตอนต่อไปค่ะ

ตอนนี้เราก็แค่คลิกที่ปุ่มสีเขียว Learn new items และเริ่มเรียนได้เลย

ก่อนอื่นมาดูปุ่มตัวช่วย ให้เราได้ปรับการเรียนของเราแบบที่เราอยากได้กันก่อน

อีกสิ่งนึงที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ ใต้ประโยคภาษาอังกฤษในบทเรียนจะมีรูปตัว T ให้เราเลือกว่า เราอยากได้คำบรรยายแบบไหน (เลือกทั้งสองก็ได้นะ)

  • Phonics: การออกเสียงตามหลักโฟนิค

จะอารมณ์คล้าย ๆ เวลาคนไทยเขียนภาษาคาราโอเกะ แต่อันนี้เสียงจะครบ และเป๊ะกว่า จะช่วยเรื่องการออกเสียงแต่ละคำให้ชัดขึ้น

โดยส่วนตัวแล้วเบญไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ เลยไม่ได้ใช้ตัวเลือกอันนี้เท่าไหร่

  • STRESS: การเน้นเสียง

อันนี้ชอบมาก ๆ เพราะถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษเหมือนเจ้าของภาษา เราควรรู้ว่าในประโยคนี้เราควรเน้นไปที่คำไหน ซึ่งถ้าใช้ตัวเลือกนี้แล้วก็จะมีขีดข้างบนของคำที่ควรเน้นเสียง

ช่วยให้พูดตามบทเรียนได้ง่ายขึ้นเยอะเลย

และโหมดการเรียน ก็จะมีให้เลือก 2 แบบ:

1. Listen Only

ในโหมดนี้ คุณจะได้ฝึกฟัง และพูดตามประโยคตัวอย่าง เหมาะสำหรับคนที่อยากเน้นไปที่การฟัง และการออกเสียงตาม

และก็ตอนพูดตาม เราจะพูดได้ครั้งเดียว และฟังสิ่งที่เราพูดไม่ได้ขณะอยู่ในบทเรียนนะ แต่ไม่ต้องห่วงไป เดี๋ยวเบญจะบอกวิธีเข้าไปฟังเสียงตัวเองเทียบกับเสียงเจ้าของภาษาให้แน่นอน

Glossika Listen Only

และก็ไม่ต้องห่วงว่าจะพูดผิด หรือไม่ได้เป๊ะ 100% เพราะว่าใน 1 บทเรียนจะมีคำศัพท์อยู่ประมาณ 5 คำเอง และเค้าก็จะวนคำเดิม ๆ ให้เราได้ฝึกพูดฟังซ้ำเรื่อย ๆ จ้า

ถ้าเกิดแค่อยากฟังเฉย ๆ ก็ปิดตรง recording ได้เลย บทเรียนก็จะวิ่งวนไปให้ คำแปล และประโยคภาษาอังกฤษ โดยที่เราไม่ต้องกดอะไรเลย

เผื่อว่าเราอยากฟังไปเรื่อย ๆ ตอนนั่งชิลล์ที่ร้านกาแฟ หรือทำอาหาร หรือไปวิ่ง ?

2. Full Practice

เมื่อเลื่อนไปอีกโหมดนึง ก็จะเจอกับโหลดที่ฝึกได้เต็มรูปแบบ คือ ฟัง พิมพ์ และพูดตาม

โหมดนี้บอกเลยว่าครบ ถ้าใครตั้งใจที่จะใช้ Glossika เป็นเว็บหลักในการเรียนภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ จริง ๆ บอกได้เลยว่าทำได้แน่นอน

เริ่มจากฟังคำแปล และฟังประโยคภาษาอังกฤษ จากนั้นก็พิมพ์ตาม

Glossika Full Practice

เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วก็ถึงเวลาพูดตามเจ้าของภาษาให้ได้เหมือนมากที่สุด

Glossika Full Practice - Recording

และนั่นคือ บทเรียนของ Glossika ดูแล้วไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยากพูดภาษาอังกฤษเป็นมาก ๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน บอกเลยว่าของ Glossika เค้ารวมประโยคที่ใช้ได้จริงมาให้ฝึกพูดแล้ว

อย่าลืมด้วยว่า เค้ามีตัวเน้นเสียงมาให้เราดู ตอนเราพูดตาม ก็อย่าลืมเน้นไปที่คำที่เค้าบอกนะ

เบญลองทำแล้ว รู้สึกเลยว่า เออ..เรามีหวังที่จะพูดได้สำเนียงเป๊ะ และไหลลื่นเหมือนฝรั่งแท้ ๆ แน่นอน

3. Offline Mode

อีกหนึ่งโหมดที่เลือกได้ แต่สำหรับเรียนบนมือถือ หรือแท็บเล็ทเท่านั้นนะ

ก็คือโหมดการเรียนแบบออฟไลน์ หรือไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตเลย แต่ก่อนจะทำแบบนั้นได้ เราต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการโหลด

เหมาะมากสำหรับคนที่อยากจะเรียนภาษาตอนที่รอรถกลับบ้าน และไม่อยากให้เปลืองอินเตอร์เน็ตของตัวเอง

เรียนโหมดนี้ง่าย ๆ โดยการเข้าไปที่หน้าบทเรียน จะมีคำว่า Downloads อยู่ที่แท็บข้างล่าง ให้เรากดไปที่นั่น และเลือกว่าเราจะดาวน์โหลดกี่บทเรียน (1 บทเรียนมี 5 ประโยค)

หลังจากโหลดเสร็จ ก็ปิดเน็ต แต่เริ่มเรียนได้เลย ทุกอย่างจะเป็นเหมือนกับโหมดออนไลน์ เลือกออพชั่นได้ตามใจ และก็เรียนได้ทั้ง 2 โหมดข้างบนเลย

บันทึกการเรียน

แต่ที่เก็บไว้สุดท้าย เพราะว่านี่คือที่ ๆ เราจะรวบรวมข้อมูลการเรียน ประวัติการเรียน และกลับมาฟังทบทวนสิ่งที่เราเรียนไว้ รวมถึงเสียงตัวเองที่เราได้บันทึกไว้ตอนเรียนด้วย

หน้านี้จะแบ่งเป็น 2 หน้าหลัก ๆ คือ:

1. Dashboard

หน้าต่างที่รวบรวมข้อมูลการเรียนของเราไว้ทั้งหมด และเป็นหน้าแรกที่เราเข้ามา เพื่อที่จะเริ่มเรียนจากตรงนี้ด้วย

Glossika Dashboard

แต่อย่างที่เห็นก็จะมีแบ่งไว้หลายช่องเลย เรามาดูพร้อม ๆ กันเลยว่าแต่ละช่องเอาไว้ทำอะไรได้บ้าง

  • Learn New Items

ปุ่มสีเขียวนี้ จะเป็นปุ่มที่ช่วยให้เราได้เริ่มเรียนประโยคภาษาอังกฤษ ต่อจากบทเรียนที่เราได้เรียนไปในครั้งก่อน

  • Review

รวมประโยคภาษาอังกฤษที่เราเรียนไปแล้ว และถ้าเราอยากเรียนซ้ำก็คลิกที่นี่ได้เลย

  • Achievements

รวบรวมข้อมูลว่าเราเรียนไปแล้วกี่ชม. เรียนไปกี่คำ และฟังซ้ำไปกี่รอบ

  • Levels

เปลี่ยนระดับภาษาอังกฤษของเราได้ แต่คุณจะเลือกได้แค่ระดับเท่าที่คอร์สแนะนำตอนทำบททดสอบ หรือระดับที่ต่ำกว่า

เพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกว่า ระดับที่คอร์สแนะนำยากเกินไป หรืออยากเรียนประโยคง่าย ๆ เพิ่มขึ้น ก็เลือกระดับตรงนี้ได้เลย

ป.ล. เราทดสอบระดับภาษาได้อีกเรื่อย ๆ เลยด้วยนะ

  • Progress

อันนี้จะโชว์ให้เราเห็นว่าวันไหนที่เราเข้ามาเรียน หรือมาทบทวนบทเรียน

2. Library

คลังประโยคภาษาอังกฤษที่เราได้เรียนไว้ หรือบันทึกไว้ จะมารวมกันอยู่ตรงนี้เลย

Glossika Library
  • Collection

รวมประโยคที่เราได้เรียนไปแล้ว

  • Favourite

รวมประโยคที่เรากดชอบ ปุ่มหัวใจ (?) ตอนที่เรากำลังเรียนมาไว้ในนี้

  • Recording

รวมประโยคที่เราได้พูดออกเสียงตามมาไว้ที่นี่ ไปฟังอีกครั้งนึงได้

  • Easy

ประโยคที่เราคิดว่าง่าย ตอนที่เราเรียนและกดรูปหัวและลูกศร (?️✔) จะมารวมกันอยู่ที่นี่

หวังว่าคุณจะชอบคู่มือการเรียนภาษากับ Glossika นี้ และช่วยให้คุณได้เห็นภาพตัวเองเริ่มพัฒนาภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ ไปกับเว็บนี้ได้

อย่าลืมนะคะ ว่าความสม่ำเสมอเป็นกุญแจหลักของการเก่งภาษา ฝึกฝนบ่อย ๆ และใช้ภาษาให้ได้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน

ด้วยความตั้งใจ และเครื่องมือที่ดี คุณจะเริ่มพูดภาษาในฝันได้อีกไม่นานแน่นอน

ถ้ามีคำถามอะไรเกี่ยวกับ Glossika หรือว่าเกี่ยวกับการเรียนภาษาโดยทั่วไป ก็คอมเม้นมาบอกกันได้เลย

ยังไงเข้าไปลองเรียนกับ Glossika ด้วยตัวเองด้วยน๊า

เลือกการแจ้งเตือน *สำคัญมาก
แจ้งเตือน
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
ดูคอมเม้นทั้งหมด