การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ อาจจะยังเป็นเรื่องยุ่งยาก หรืองง ๆ กับรูปแบบที่ใช้ได้จริง
หรืออาจจะสงสัยว่า วัน เดือน หรือปี อะไรขึ้นก่อนกันแน่เวลาที่ต้องเขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษนั้น และคอมม่า (,) จะต้องใส่ตรงไหนบ้าง
เพราะฉะนั้นวันนี้เบญได้ไปรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับทั้งการอ่าน และการเขียน วันที่ภาษาอังกฤษ มากฝากกันค่ะ
เบญเชื่อจริง ๆ ว่าโพสต์นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับการเขียน และการอ่านวันที่ภาษาอังกฤษ มากขึ้น
แต่ปกติแล้ว เบญก็ไม่ได้นั่งท่องเองตลอดหรอกนะ
เบญมีตัวช่วยง่าย ๆ คือแค่โหลด Grammarly ฟรี ติดมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ไว้เสมอ
Grammarly จะช่วยแก้ไขทั้งไวยากรณ์ ตัวสะกด และพวกสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราอาจจะมองข้าม เช่น , หรือ .
ใช้ง่าย และสะดวกมากเลยจริง ๆ เบญลองใช้ และเขียนรีวิววิธีใช้ให้ดูแล้ว
รับรองได้เลยว่า คุณจะพิมพ์ภาษาอังกฤษเหมือนโปร และไม่มีข้อผิดพลาดอีกต่อไป
มีตัวช่วยพร้อมแล้ว ก็ไปเริ่มทำความรู้จักเรื่องวันทีภาษาอังกฤษกันเลย!
วิธีเขียน และอ่าน วันภาษาอังกฤษ
Q: How many days are there in a week?
A: There are 7 days in a week.
วัน | วันภาษาอังกฤษ | คำอ่านออกเสียง |
Sunday | ซัน เดยฺ | วันอาทิตย์ |
Monday | มัน เดยฺ | วันจันทร์ |
Tuesday | ทิวสฺ เดย์ | วันอังคาร |
Wednesday | เว็นสฺ เดยฺ | วันพุธ |
Thursday | เติรฺสฺ เดยฺ | วันพฤหัสบดี |
Friday | ฟรายฺ เดยฺ | วันศุกร์ |
Saturday | แซทเทอ เดยฺ | วันเสาร์ |
การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ ใช้วันอาทิตย์-เสาร์ นั้น ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้คำว่า on นำหน้าวันค่ะ
แม้กระทั่งเวลาที่เราแปลไทย หรือพูดเป็นภาษาไทย เราจะใช้คำว่า ใน ก็ตาม แต่ในภาษาอังกฤษจะต่างกัน เช่น…
The party at my house is on Friday night! หรือ
Are you leaving on Sunday morning?
ไม่มีพื้นฐาน ก็เก่งอังกฤษได้
สอนโดยครูคนอังกฤษแท้ ๆ เน้นคำศัพท์ และประโยคภาษาอังกฤษช่วยให้คุณเอาตัวรอดได้ในชีวิตประจำวัน เรียนผ่านวีดีโอ สนุก และเข้าใจง่าย
วิธีเขียน และอ่าน เดือนภาษาอังกฤษ
Q: How many months are in a year?
A: There are 12 months in a year.
แปลภาษาไทย | ออกเสียง | คำอ่านออกเสียง |
January | แจน ยัว รี | มกราคา |
February | เฟ็บ บรัว รี | กุมภาพันธ์ |
March | มารชฺ | มีนาคม |
April | เอ เพริลฺ | เมษายน |
May | เมยฺ | พฤษภาคม |
June | จูนฺ | มิถุนายน |
July | จูลายฺ | กรกฎาคม |
August | ออกัสทฺ | สิงหาคม |
September | เซ็พ เท็ม เบอรฺ | กันยายน |
October | อ็อค โท เบอรฺ | ตุลาคม |
November | โน เฟว็ม เบอรฺ | พฤศจิกายน |
December | ดี เซ็ม เบอรฺ | ธันวาคม |
การแต่งประโยค ที่ใช้เดือนภาษาอังกฤษร่วมด้วย จะนิยมใช้คำว่า in นำหน้าเดือน
เหมือนกับเวลาที่เราพูดหรือแปลในภาษาไทยว่า ในเดือนมกราคม เช่น…
I will go to England in July this year. หรือ
I don't think it's a good time to go to America in December.
วิธีอ่านวันที่ภาษาอังกฤษ
การอ่านวันที่เป็นภาษาอังกฤษนั้น ก็จะต่างกับการอ่านเลขภาษาอังกฤษทั่วไป
บางตัวจะเติม th ไว้ข้างหลัง และบางวันที่ก็จะเปลี่ยนเสียง และรูปไปเลย ตามตารางข้างล่างนี้:
วันที่ | ตัวเขียน | twenty-eight |
1st | first | เฟิรฺสฺทฺ |
2nd | second | เซเคินดฺ |
3rd | third | เซิรฺด |
4th | fourth | ฟอรฺทซฺ |
5th | fifth | ฟิฟซฺ |
6th | sixth | ซิกซฺ |
7th | seventh | เซเวินซฺ |
8th | eighth | เอ็ทซฺ |
9th | ninth | ไนนซฺ |
10th | tenth | เทินซฺ |
11th | eleventh | อีเลเวินซฺ |
12th | twelfth | ทเวลซฺ |
13th | thirteenth | เซอรฺทีนซฺ |
20th | twentieth | ทเว็นทิซฺ |
21st | twenty-first | ทเว็นทิ เฟิรฺสฺทฺ |
22nd | twenty-second | ทเว็นทิ เซคันดฺ |
23rd | twenty-third | ทเว็นทิ เซิรฺดฺ |
24th | twenty-fourth | ทเว็นทิ ฟอรฺซฺ |
25th | twenty-fifth | ทเว็นทิ ฟิฟซฺ |
26th | twenty-sixth | ทเว็นทิ ซิกซฺ |
27th | twenty-seventh | ทเว็นทิ เซเวินซฺ |
28th | twenty-eighth | ทเว็นทิ เอ็ทซฺ |
29th | twenty-ninth | ทเว็นทิ ไนนฺ |
30th | thirtieth | เซอรฺทิซฺ |
31st | thirty-first | เซอรฺทิซฺ เฟิรฺสฺทฺ |
วิธีอ่านปีภาษาอังกฤษ
การอ่านปีเป็นภาษาอังกฤษนั้น ก็จะมีความแตกต่างเล็กน้อยจากการอ่านปีเป็นภาษาไทย
เพราะอย่างถ้าปีเป็นภาษาไทย ส่วนใหญ่เราจะอ่านเป็นหลักพัน หรือหลักหน่วย
เช่น 1984 เราจะอ่านเป็น หนึ่งพันเก้าร้อยแปดสิบสี่ หรือ หนึ่งเก้าแปดสี่
แต่สำหรับการอ่านปีเป็นภาษาอังกฤษนั้น เค้าจะแบ่งเป็น 2 ส่วน
เช่น ปี 1984 จะถูกแบ่งเป็นอย่างละ 2 ตัว คือ 19 และ 84 ส่วนเวลาอ่านนั้น เราจะอ่านเป็นหลักสิบค่ะ คือ nineteen eighty-four.
- 1066 = ten sixty-six
- 1652 = sixteen fifty-two
- 1941 = nineteen forty-one
- 2017 = twenty seventeen
สำหรับปี 2000 นั้น เค้าก็จะอ่านเป็นหลักพันค่ะ two thousand
สำหรับปี 2001 ถึง ปี 2010 วิธีที่คนส่วนใหญ่อ่านกันก็คือ two thousand and + number (เลขข้างหลัง) เช่น
- 2001 = two thousand and one
- 2005 = two thousand and five
- 2008 = two thousand and eight
หลังจากปี 2010 ขึ้นไป เราอาจจะเคยได้ยินคนทั่วไปอ่านเป็นสองแบบ เช่น
ปี 2012 บางคนจะอ่านว่า…
- two thousand and twelve
- twenty twelve.
ในกรณีที่ปีนั้น ลงท้ายด้วยเลข 01 ถึง 09 เช่น 1705 สองตัวแรกเราจะอ่านเป็นหลักสิบ ส่วนสองตัวสุดท้ายเราจะอ่านเป็นหลักหน่วย
เลข 0 นั้น เราจะไม่อ่านว่า zero แต่เราจะอ่านว่า โอ เหมือนกับตัวพยัญชนะ O + number (เลขตัวสุดท้าย) เช่น…
- 1508 = fifteen O eight
- 1709 = seventeen O nine
- 1901 = nineteen O one
และสำหรับปีที่ลงท้ายด้วยเลข 00 ตัวอย่างเช่น ปี 1600 เราก็จะอ่านหลักสิบของสองตัวแรก และอ่านเลข 00 ว่า hundred (ที่แปลว่าร้อย) เช่น…
- 1300 = thirteen hundred
- 1700 = seventeen hundred
- 1800 = eighteen hundred
วิธีใช้ปี ในประโยคภาษาอังกฤษ
ในการเขียนปีในประโยคภาษาอังกฤษนั้น จะเขียนเป็นตัวเลข หรือตัวหนังสือก็ได้
แต่ส่วนใหญ่แล้ว เค้าจะไม่นิยมเขียนตัวเลขปีขึ้นต้นประโยค ส่วนใหญ่จะเขียนเป็นตัวหนังสือ เช่น…
The year 1929 brought the Great Depression, the St. Valentine’s Day Massacre, and an influenza epidemic.
Nineteen twenty-nine brought the Great Depression, the St. Valentine’s Day Massacre, and an influenza epidemic.
Much happened in the political arena in 2016.
Two thousand and sixteen was an eventful year in politics.
หรือว่า Two thousand sixteen was an eventful year in politics.
เช่น 01/15/2018 (มกราคม วันที่ 15 ปี 2018)
วิธีเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ
เวลาเราอยากจะเขียนวันที่ในรูปแบบ เดือน-วันที่-ปี ในแบบเขียนนั้น เราจะเขียนโดยใช้เวลาวันที่เป็นเลขปกติ
เช่น one, two, three มากกว่าใช้ first, second, third
แต่เวลาเราพูด หรืออ่านเรื่องวันที่นั้น เรามักจะใช้ เลขที่บอกลำดับวันที่ เช่น first, second, third ตัวอย่างเช่น…
เขียน: January 1, 2017
อ่าน: January first two thousand seventeen
มีหลายคนยัง งง ๆ กับการเขียนวันที่โดยใช้ comma หรือ ลูกน้ำ (,) คั่น และนี่คือวิธีการเขียนวันที่โดยใช้คอมม่าคั่นแบบง่าย ๆ ค่ะ
ในรูปแบบวันที่แบบ เดือน-วันที่-ปี จะใส่ comma หลังจากวันที่ และปี เช่น On May 13, 2007, Daniel was born.
และในรูปแบบ วันที่-เดือน-ปี นั้น จะไม่ใส่ comma เลย เช่น On 13 May 2007 Daniel was born.
หรืออีกรูปแบบหนึ่งคือใช้คำว่า of เป็นตัวคั่น ว่าเป็นของเดือน…
เช่น Daniel was born on the 13th of May
วิธีเขียนวันที่โดยระบุวัน
เวลที่เราจะต้องเขียนการเขียนวันที่รูปแบบยาวนั้น เราควรต้องใส่ comma หลังจากวันอาทิตย์-เสาร์ เพื่อที่จะให้มันอ่านง่ายมากขึ้น เช่น…
My birthday is on Friday, December 21, 2012.
We will have a party on Monday, January 30, 2017!
วิธีเขียนวันที่เป็นตัวเลข
การเขียนวันที่เป็นตัวเลขทั้งหมดนั้น ไม่นิยมใช้กันในการเขียนที่เป็นทางการ แต่ใช้ได้ เวลาที่เราจดบันทึก หรือใช้สำหรับสิ่งที่ไม่เป็นทางการค่ะ
1. เขียนวันที่แบบ month/day/year
ในรูปแบบนี้ จะนิยมใช้กันใช้ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียงจาก (เดือน/วันที่/ปี)
2. เขียนวันที่แบบ day/month/year
ในรูปแบบนี้จะนิยมใช้กันในประเทศอังกฤษ และแถบยุโรป (วันที่/เดือน/ปี)
เช่น 30/06/2016 (วันที่ 30 มิถุนายน 2016)
3. เขียนวันที่แบบ year/month/day
รูปแบบนี้ นิยมใช้กันในแถบเอเซีย (ปี/เดือน/วันที่)
เช่น 2019/07/28 (ปี 2019 กรกฎาคม วันที่ 28)
ปล.ในบางประเทศนั้นก็เลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งสลับกันค่ะ เช่น ประเทศแคนนาดา ใช้ทั้งสามแบบเลย ขึ้นอยู่กับว่าพวกเค้ากำลังคุยกับใคร
สมมติว่ามีเพื่อนอยู่ที่ประเทศอเมริกา และต้องการที่จะจัดงานปาร์ตี้และอยากชวนเค้ามาร่วมนั้น ต้องระวังวันที่ ที่จะเขียนลงไปใน e-mail
เช่น ถ้าคุณต้องการให้เค้ามาวันที่ 7 เดือน กันยายน แต่คุณพิมพ์ไปว่า “I want to invite you to come to my party on 7/8” เค้าอาจะเข้าใจผิด และมาวันที่ 8 เดือน กรกฎาคม ก็ได้นะคะ