44 ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ได้ยินบ่อย ได้ใช้จริงแน่นอน

By

ถ้าพูดถึงการสนทนาภาษาอังกฤษแล้ว มันมีอะไรมากกว่าแค่บอกว่า “Hello หรือ How are you?

เพราะเมื่อเรารู้จักกับประโยคภาษาอังกฤษมากขึ้น

เราก็จะกล้าที่จะคุยกับชาวต่างชาติมากขึ้น และทำความรู้จักกันได้ลึกซึ้งขึ้น

และนี่คือหนึ่งในวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เก่งไว

ก็คือการเข้าไปเรียนคำศัพท์ และประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันบทคอร์สเรียน The Survival English Course

อ้อ และถ้าคุณยังไม่ได้ลงเรียนกับคอร์สนี้ บอกเลยค่ะว่าพลาดมาก!!

The Survival English Course

คอร์สนี้คุณจะได้เรียนภาษาอังกฤษหัวข้อต่าง ๆ ผ่านการดูวีดีโอ และทำแบบฝึกหัด

คุณครูที่สอนเป็นคนอังกฤษแท้ ๆ แต่วีดีโอมีแปลไทยให้ และมีคำอ่านให้ด้วย

รับรองเลยว่าสนุก และเข้าใจง่ายมาก ๆ

เพราะการรู้จักกับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริง ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ

วันนี้เบญเลยได้รวบรวมประโยคภาษาอังกฤษสั้น ๆ มาให้ข้างล่างนี้

เพื่อที่คุณจะลองอ่าน จำ และนำไปใช้ดู

พร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย!!

YouTube video

1. Hello! How are you? ฮัลโล ฮาวฺ อารฺ ยู้ สวัสดีค่ะ สบายดีมั้ยคะ

2. I'm glad to see you. ไอม์ แกลดฺ ทู ซี ยู ดีใจที่ได้เจอคุณ

3. Come in please. คัม อิน พลีสฺ / Please come in. พลีสฺ คัม อิน เชิญเข้ามาข้างในก่อนค่ะ

เช่น Please come in and have a seat. เชิญเข้ามาข้างในหาที่นั่งก่อนค่ะ

4. I have heard a lot about you. ไอ แฮฟฺ เฮิรฺดฺ อล็ทฺ อะเบ้าทฺ ยู ฉันได้ยินเรื่องของเธอมาเยอะเหมือนกันนะ

อาจจะเป็นการเจอกันครั้งแรก และเราก็ใช้ประโยคนี้หลังจากที่ถามชื่อเค้า อาจจะเป็นเพื่อนของเพื่อน คนที่เรารู้จัก และมีคนเคยแนะนำรื่องเค้าให้รู้มากก่อน

5. Look who is it? ลึคฺ ฮู อีส สิทฺ ดูสิว่าฉันเจอใคร

ใช้เมื่อเราเจอคนที่รู้จัก หรือเพื่อนที่อาจจะไม่ได้เจอกันมาสักพักนึง เป็นประโยคเริ่มต้น ก่อนถามคำถามอื่น หรือถามสาระทุกข์สุขดิบ

6. Are you surprised to see me? อารฺ ยู ซะไพรส์ ทู ซี มี เธอประหลาดใจมั้ยที่เธอเจอฉัน

อาจจะพูดประโยคนี้หลังจากพูดประโยคข้างบนแล้วก็ได้

7. It’s my treat. อิทสฺ มายฺ ทรีทฺ ฉันเลี้ยงเอง

8. I didn’t mean to… ไอ ดิดดึนทฺ มีน ทู….. ฉันไมได้ตั้งใจที่จะ……

เป็นประโยคที่แสดงความเสียใจอย่างนึง และเราก็ใส่คำกริยาต่อท้ายไป เช่น

9. I didn’t mean to hurt your feelings. ไอ ดิดดึนทฺ มีน ทู เฮิรฺทฺ ยอรฺ ฟีลลิ่งสฺ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายความรู้สึกของคุณ

10. I didn’t mean to embarrass you. ไอ ดิดดึนทฺ เอมบาราสฺ ยู ฉันไม่ได้ตั้งที่จะทำให้คุณอาย

11. I didn't mean to cause trouble.อ ดิดดึนทฺ มีน ทู คอส ทรับโบลฺ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างปัญหา

12. Got a minute? ก็อท อะ มินิทฺ มีเวลาสักครู่นึงมั้ยคะ

13. It’s your turn. อิทสฺ ยอรฺ เทิรฺน / your turn. ยอรฺ เทิรฺน ถึงตาคุณแล้ว

14. Anything else? เอนี่ซิง เอลสฺ มีอะไรอีกมั้ยคะ

เช่น Emma, I'm gonna order some orange juice. Do you want anything else? เอ็มม่าฉันจะสั่งน้ำส้ม เธออยากได้อะไรอีกมั้ย

15. What time is it? ว็อทฺ ไทมฺ อีส สิทฺ กี่โมงแล้วคะ

16. Where have you been? แวรฺ แฮฟฺ ยู บีน หายไปไหนมาตั้งนานนนน

17. Where do you live? แวร์ ดู ยู ลิฟฺ บ้านของคุณอยู่ที่ไหนหรอ

ไม่ต้องตอบว่า I live in Thailand เหมือนที่เคยเรียนมาที่โรงเรียนนะ

ถ้าเราคุยกับคนนี้ตอนที่เราอยู่เมืองไทยอยู่แล้ว แต่ถ้าเค้าเพิ่งมาอยู่เมืองไทย ก็อาจจะตอบเค้าเป็นชื่อเมืองใหญ่ ๆ ก็ได้ หรือชื่ออำเภอ

18. What do you want? ว็อทฺ ดู ยู ว๊อนทฺ มีไรป่าวเฮ้ย เอ้ยไม่ใช่ 555

มันแปลว่า เธอจะเอาอะไร/เธออยากได้อะไร มันฟังดูห้วน ๆ ไปหน่อย

แต่สามารถใช้กับเพื่อนสนิท หรือคนที่เราสนิทด้วยได้

19. What would you like? ว็อทฺ วึด ยู ไลคฺ คุณอยากได้อะไรมั้ยคะ

อันนี้แปลเหมือนกันเหมือนกันกับประโยคข้างบน แต่สุภาพกว่า และใช้กับผู้ใหญ่ได้

20. I have no choice. ไอ แฮฟฺ โน ช๊อยสฺ ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว

เบญกับแฟนชอบคุยเล่นกันบ่อย ๆ ค่ะ Sorry, I have no choice but to kill you. ขอโทษนะ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากต้องฆ่าคุณ

แต่ในความจริงแล้วนั้นเบญเชื่อ We always have a choice and the choice is ours. เรามีทางเลือกเสมอ และทางเลือกนั้นก็เป็นของเราค่ะ ^^

21. I have no idea. ไอ แฮฟฺ โน ไอเดีย ฉันไม่รู้

ประโยคนี้ไม่ได้แปลว่าฉันไม่มีความคิดไอเดียนะคะ อาจจะใช้ประโยคนี้ตอบคำถามเวลาคนถามเรื่อง ๆ ต่าง ๆ

เช่น เธอเห็นของอันนั้นมั้ย รู้จักทางไปที่นี่หรือเปล่า ถ้าเราไม่รู้ก็ใช้คำตอบนี้ได้ค่ะ

22. Sounds good. ซาวนฺ กุดฺ ฟังดูดีนะ

ประโยคนี้จะใช้ตอบเวลาที่มีคนมาบอกแผนอะไรกับเรา หรือเค้าอาจจะบอกอะไรสักอย่างและถามว่าโอเคมั้ย เราตอบคำนี้ได้เลย

23. Don't be late. โดวนทฺ บี เลทฺ อย่ามาสายนะ

ถ้าพูดห้วน ๆ แบบนี้ อาจจะพูดกับคนสนิทหรือเพื่อนกันได้ค่ะ

แต่ถ้าอยากพูดให้สุภาพมากขึ้นหรือพูดกับคนที่ไม่ได้สนิท อาจจะใส่คำว่า please ไว้ข้างหน้าหรือข้างหลังประโยคนี้จ้า

ไม่มีพื้นฐาน ก็เก่งอังกฤษได้

สอนโดยครูคนอังกฤษแท้ ๆ เน้นคำศัพท์ และประโยคภาษาอังกฤษช่วยให้คุณเอาตัวรอดได้ในชีวิตประจำวัน เรียนผ่านวีดีโอ สนุก และเข้าใจง่าย

(อ่านข้อมูลเพิ่มเติม)

24. Be on time. บี ออน ไทมฺ มาให้ตรงเวลานะ

หลักการคล้าย ๆ กับประโยคข้างบนค่ะ ใส่ พลีส เข้าไปจะดูน่าฟังขึ้นเยอะเลยเจ้าาา

25. Just in time. จัสทฺ อิน ไทมฺ มาได้เวลาพอดีเลย

26. Of course. โอฟฺ คอรฺสฺ ได้สิ แน่นอน

27. I see. ไอ ซี อ๋อ..

ประมาณว่า เข้าใจแล้ว รู้แล้ว

คำนี้เป็นคำที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะมันไม่ได้แปลตรงตัวว่า “ฉันเห็น”

เหมือนเวลามีคนคุยกับเรา และเราอยากจะตอบไปว่า อ๋อ..เข้าใจละ

ใช้แทนคำว่า Okay หรือใช้ร่วมกันก็ได้ค่ะ ช่วยเรื่องการให้คนที่คุยกับเรารู้สึกว่าเราตั้งใจฟังเค้า และเข้าใจในสิ่งที่เค้าพูดมากว่ายืนฟังเฉย ๆ ค่ะ

28. I got it. ไอ ก็อทฺ อิทฺ ฉันเข้าใจละ

29. I don't get it. ไอ โดวนทฺ เก็ทฺ อิทฺ ฉันไม่เข้าใจ

30. Well done. เว็ลลฺ ดันฺ / good job. กึดฺ จ็อบฺ / great job. เกร็ทฺ จ็อบฺ / you did it. ยู ดิด อิทฺ

ทั้งหมดนี้เป็นคำชื่นชมแปลว่า เธอเก่งมากเลย ทำได้ดีมาก เธอทำได้แล้ว

ใช้กับเด็ก ๆ ก็ได้ค่ะ เป็นคำง่าย ๆ ที่ทุก ๆ คนชอบฟัง

31. Go for it. โก ฟอรฺ ริทฺ ทำเลยจ้า

เป็นคำให้กำลังใจง่าย ๆ เมื่อมีคนมาบอกว่าเค้ามีแผนการทำให้ความฝันของเค้าสำเร็จยังไง

หรือเค้าอยากทำอะไรสักอย่าง คุณก็ให้กำลังใจบอกให้เค้าเริ่มลงมือทำมันเลย

32. Get well soon. เก็ตฺ เวลฺ ซูน / get better soon. เก็ทฺ เบทเทอรฺ ซูน ขอให้หายไว ๆ นะ

33. Be careful. บี แคฺเฟิลฺ / watch out. ว็อชฺ เอ้าทฺ ระวังนะ

34. Just kidding. จัสทฺ คิดดิ้ง / just joking. จัสทฺ โจ๊กกิ้ง ล้อเล่น

หรือว่าจะใช้ joking / kidding เฉย ๆ หรือ I'm joking. / I'm kidding ก็ได้จ้า

35. Are you kidding? อารฺ ยู คิดดิ้ง / Are you joking? อารฺ ยู โจ๊กกิ้ง นี่คุณล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย

36. Are you being serious? อารฺ ยู บิอิ้ง ซีเรียสฺ จริงหรอ

ใช้ในสถานการณ์ที่อาจะมีคนเล่าอะไรน่าตื่นเต้นให้คุณฟัง หรือเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ ใช้ประโยคนี้ได้ค่ะ

37. Are you tired อารฺ ยู ไทรฺเอิด / hungry ฮังกริี้ / sad แซดฺ / sick? ซิคฺ คุณเหนื่อย / หิว / เสียใจ / ไม่สบาย หรือเปล่า

อาจจะถามในตอนที่เราเห็นหน้าตาของเค้าไม่ค่อยดี หรืออาจจะเป็นต่อหลังประโยคคำว่า How are you? ก็ได้

38. That’s it. แดทซฺ ซิทฺ / that’s all. แดทซฺ ซอลฺ แค่นั้นแหละ / จบแล้ว

เป็นประโยคจบท้ายประโยค หลังจากที่เราเล่าเรื่องอะไรให้อีกคนนึงฟังจบแล้ว

39. I can’t wait. ไอ คานทฺ เวทฺ ฉันรอไม่ไหวแล้ววววว!!

เช่น I can't wait to see you today. ฉันรอไม่ไหวแล้วที่จะเจอกับคุณวันนี้

หรืออีกหนึ่งตัวอย่างก็คือ I can't wait for the party tonight. ฉันรองานปาร์ตี้คืนนี้ไม่ไหวแล้ว

หรือว่าถ้ามีคนบอกเรา หรือชวนเราไปไหน หรือนัดเจอกับเรา มันฟังดูสุภาพและก็ทำให้เค้ารู้สึกดีว่าเราอยากเจอเค้าหรือไปกับเค้าค่ะ

40. Again please. อเกน พลีสฺ อะไรนะคะ / อีกครั้งค่ะ

ส่วนใหญ่จะได้ยินประโยคนี้เมื่อเราฟังไม่ทัน หรืออยากให้เค้าพูดซ้ำระโยคนั้น เพื่อความแน่ใจว่าเราเข้าใจถูกต้องแล้ว

41. It’s time to go. อิทสฺ ไทมฺ ทู โก / It’s time to get going. อิทสฺ ไทมฺ ทู เก็ทฺ โกอิง ได้เวลาที่จะต้องไปแล้ว

42. Must you go now? มัสทฺ ยู โก น้าวฺ คุณต้องไปแล้วใช่มั้ย

พูดพร้อมทำหน้าเศร้าเหมือนไม่อยากให้เค้าไป ทั้ง ๆ ที่อยากให้ไปแล้ว เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

ให้ลองสังเกตุดูท่าทีเค้าด้วย อย่างเช่นเค้าอาจจะดูนาฬิกาข้อมือบ่อย

หรือมีคนมาเรียก หรือเค้าบอกเราว่า “I think I'll have to get going now” ประมาณนั้น และเราค่อยพูดประโยคนี้ค่ะ)

43. God bless you. ก็อดฺ เบลสฺ ยู ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

เป็นการอวยพรเค้าสั้น ๆ แต่ว่าจริงใจ และเป็นสิ่งที่ดีที่จะพูดค่ะ

44. See you later. ซี ยู เลเทอรฺ / See you again later. ซี ยู อเกน เลเทอะรฺ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ

หวังว่าคุณจะชอบบทความในวันนี้นะคะ

เบญเชื่อจริง ๆ ว่า ประโยคหลาย ๆ ประโยค ก็เป็นประโยคที่เราได้ยินกันบ่อยๆ อยู่แล้วในบทสนาทั่วไป

แต่เราอาจจะแค่ไม่แน่ใจว่าเราเข้าใจความหมายมั้ย หรือใช้ถูกสถานการณ์หรือเปล่า

ยังไงลองเอาไปใช้กันดูน๊า

See you later! God bless you.

เลือกการแจ้งเตือน *สำคัญมาก
แจ้งเตือน
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
ดูคอมเม้นทั้งหมด

ปลดล็อค ความมั่นใจ ในภาษาอังกฤษของคุณด้วย Survival English Course เพิ่งเริ่มเรียน ก็เก่งได้

เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้

เรียนกับเจ้าของภาษา

บทเรียนวิดีโอสนุก เข้าใจง่าย

ถูกกว่าโรงเรียน 99%