ถ้าคุณอยากเรียนภาษาอังกฤษ แต่ไม่รู้จะเริ่มกับคอร์สอะไร?
อยากเก่งภาษาอังกฤษ แต่ไม่รู้ต้องเริ่มเรียนตรงไหนก่อน?
ขยับเข้ามาใกล้ ๆ กันได้เลยค่ะ
เพราะว่าเบญเองก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว ที่สับสน งง อยากพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองในปีนี้ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มที่ไหน และจบด้วยการไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย
แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะวันนี้ 3 ขั้นตอนที่เบญสรุปมาไว้ให้ ทำตามง่ายมาก ๆ และเชื่อเลยว่าจะช่วยให้คุณได้เริ่มเก่งภาษาอังกฤษได้ในวันนี้
ถ้าพร้อมแล้ว อย่ามัวช้า ไปลุยกันเลย!
1. เลือกคอร์สที่ชอบ
เบญจะไม่ได้พูดถึงการเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่โรงเรียน เหมือนที่หลาย ๆ คนรู้จัก แต่จะเสนอทางเลือกอีกหนึ่งทาง ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาแล้ว
ก็คือการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ นั่นเอง…
อยากให้คุณลองเปิดใจกับการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เพราะว่า มันมีข้อดีหลายอย่างเลย
เช่น ไม่ต้องนั่งรถไปที่โรงเรียนเอง อันนี้คือประหยัดทั้งเงินค่ารถ ประหยัดทั้งเวลาที่ต้องไปรอรถติด
เบญเคยเห็นหลายคนที่ล้มเลิกความฝันที่อยากเก่งภาษาอังกฤษ เพียงเพราะโรงเรียนภาษาอังกฤษอยู่ไกล และไม่สะดวกเดินทางค่ะ น่าเสียดายมาก ๆ
และอีกสิ่งที่นึงที่เบญชอบมาก ๆ เกี่ยวกับการเรียนภาษาออนไลน์ก็คือ…
เราเรียนที่ไหนก็ได้ และเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ว่าจะเรียนผ่านคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เรียนภาษาอังกฤษบนโทรศัพท์มือถือที่ร้านกาแฟ
พอมันสะดวกขนาดนี้ เราก็จัดตารางเองได้ และตัดข้ออ้างที่จะไม่เริ่มเก่งภาษาอังกฤษในปีนี้ออกไปได้เลย
แต่ก่อนจะไปต่อ คุณเองต้องเลือกคอร์สเรียนออนไลน์ที่จะเป็นคอร์สหลักในการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานในครั้งนี้
คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน Survival English
เบญแนะนำคอร์สนี้ให้ เพราะว่าเป็นคอร์สของ Fight For Fluency เอง ที่ทำขึ้นมาเพื่อคนไทยที่อยากเริ่มเก่งภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ
ได้รวบรวม 21 บทเรียน 240+ คำศัพท์ และ 170+ ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันไว้ให้ในคอร์สเดียว
และที่สำคัญคุณลองเรียนบทเรียนแรกฟรีได้อีกด้วยนะ
ในคอร์สก็จะหน้าตาประมาณนี้ สิ่งที่มีให้ก็จะเป็น:
- บทเรียนวีดีโอ
สอนโดยครูเจ้าของภาษา คนอังกฤษแท้ ๆ มีคำแปลและคำอธิบายภาษาไทยให้ด้วย

- ไฟล์คำศัพท์และประโยค PDF
โหลดไฟล์ไว้เปิดเรียนคู่กับวีดีโอ หรือปริ้นออกมาไว้เขียนโน๊ตว่าคำนี้ออกเสียงยังไงก็ได้

- แบบทดสอบ
ท้ายบทเรียนจำมีคำถาม หรือแบบฝึกหัดให้ทำ เพื่อจะได้รู้ว่าคุณเข้าใจบทเรียนที่เพิ่งเรียนไปมากแค่ไหน

- คอมเม้นใต้บทเรียน
มีคำถามอะไรเกี่ยวกับบทเรียน หรือมีอะไรใหม่ ๆ ที่เพิ่งเรียน และอยากแบ่งปัน พูดคุย ก็ส่งคอมเม้นมาคุยกับคุณครู และเพื่อน ๆ นักเรียนด้วยกันได้นะ

บอกเลยว่า ยังไงคอร์สที่ก็เหมาะที่สุด และคุ้มที่สุดค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปแวะซื้อคอร์สนี้ก่อนไปขั้นตอนที่ 2 ได้เลย
แอบกระซิบว่า… ตอนนี้มีส่วนลด 70% อยู่ด้วยนะ จากที่ปกติราคาถูกอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่เลย ห้ามพลาดเด็ดขาด!
อ่านวิธีชำระเงินเพิ่มเติม หรือเลือกวิธีชำระเงินได้ด้วยตัวเอง
2. หาตัวช่วยฝึกเพิ่ม
เราต้องจำไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ แม้กระทั่งเวลาทำอาหาร เราเริ่มทำแรก ๆ เราก็อาจจะทำไม่อร่อย รสชาติขาด ๆ เกิน ๆ
แต่สิ่งที่จะทำให้คนทำอาหารธรรมดา กลายเป็นเชฟมืออาชีพ ก็คือการฝึกฝนอยู่เสมอ
การเรียนภาษาก็เช่นกันโดยเฉพาะคนไหนที่อยากเก่งภาษาไว กุญแจสำคัญก็คือ การขยันฝึกฝน และไม่ยอมแพ้
แต่คุณก็คงสงสัยว่า และการขยันเนี่ย ต้องเป็นแบบไหนล่ะ หมายถึงนั่งท่องคำศัพท์ทั้งวันเลยหรือเปล่า
จริง ๆ แล้วก็ไม่เชิงนะคะ 555 แต่เบญมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นในการขยันฝึกฝน เก่งภาษาไว แบบมีประสิทธิภาพมาฝากกันด้วยค่ะ
เพราะเบญรู้ว่าเวลาของเราแต่ละคนก็จำกัดมากในแต่ละวัน บางคนก็ต้องทำงานประจำ บางคนทำงานพิเศษ บางคนต้องไปเรียน เลี้ยงลูก ดูแลครอบครัว บลา ๆ ๆ
แต่สิ่งที่คุณทำได้ก็คือ การแวงแผนเวลาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในหนึ่งวัน เช่น เรารู้อยู่แล้วว่าเราทำอะไรบ้างในหนึ่งวัน
ก็แบ่งเวลาแค่วันละ 5-10 นาที อาจจะเป็น 3-5 วัน/อาทิตย์ ที่จะนั่งทบทวนบทเรียนที่เรียนไปค่ะ
เพราะการฝึกฝนที่ได้ผลที่แท้จริงแล้วไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าฝึกนานเท่าไหร่ แต่อยู่ที่ฝึกบ่อยแค่ไหน
และสิ่งที่เบญอยากจะแนะนำ สำหรับคนที่เรียนภาษาอังกฤษเบื้องต้น สิ่งที่เราควรฝึกบ่อย ๆ ก็คือ.. การฝึกฟังภาษาอังกฤษ และการฝึกพูดภาษาอังกฤษ
ฝึกฟังภาษาอังกฤษ
แน่นอนว่า คุณจะได้ฝึกฟังภาษาอังกฤษจากคอร์สหลัก Survival English ข้างบนแน่นอน
แต่ยังมีอีกหลายทางเลยที่เราทำอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน ที่จะยิ่งช่วยพัฒนาการฟังภาษาอังกฤษของคุณมากขึ้น เช่น
- ดูหนังภาษาอังกฤษ
บ้านคุณเบญไม่แน่ใจ แต่ที่บ้านเบญ เราดูหนังกันบ่อยมาก ๆ ช่วงพักเที่ยง หลังเลิกงาน ก่อนเข้านอน
บอกได้เต็มปากเลยว่า การดูหนังเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณได้ฝึกฟังอย่างได้ผลจริง ๆ เพราะคุณจะได้นั่งฟังภาษาอังกฤษเป็น ชม. (หรือบางเรื่องก็นานกว่านั้น)
และนี่คือหนังฝรั่งที่เบญดูเองชอบ และก็มาแนะนำต่อ หนัง Netflix สำเนียงอเมริกัน หรือว่า หนัง Netflix สำเนียงบริติช (ถ้าอยากให้ทำวีดีโอแยก คอมเม้นบอกได้เลยจ้า)
- ฟังพอดแคสต์ภาษาอังกฤษ
จริง ๆ ฟังเพลงภาษาอังกฤษก็ช่วยได้เยอะนะ แต่นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ไม่ชอบดูหนัง หรือฟังเพลง
มีพอดแคสต์หลาย ๆ ช่องเลยที่น่าสนใจ และฟังเพลินมาก ๆ แถมได้ภาษาพ่วงไปด้วยอีกต่างหาก
แรก ๆ อาจจะฟังออกยากหน่อย เพราะไม่มีภาพประกอบ แต่บอกเลยว่า ฟังไปบ่อย ๆ จะช่วยให้เราได้เริ่มชินกับสำเนียง และเริ่มจับคำศัพท์ หรือจับใจความได้เพิ่มแน่นอน
- ดู YouTube ภาษาอังกฤษ
มี YouTube ภาษาอังกฤษหลายช่องที่เบญดู และฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองบ่อย เพราะมีหลายช่องที่เป็นหัวข้อที่ชอบ เช่น ทำอาหาร เล่นเกมส์ แฟชั่น
หรือถ้าเลือกไม่ได้ ช่องของ Fight For Fluency ก็มีหลากหลายหัวข้อให้เรียนเลยน๊า มาติดตามดูกันได้
ฝึกพูดและใช้ภาษาอังกฤษ
เบญสามารถบอกคุณจากโลกอนาคตได้เลยว่า ต่อให้เรียนภาษาอังกฤษมาหนักแค่ไหน หรือว่ารู้จักคำศัพท์ภาษาอังกฤษมากแค่ไหน ถ้าเกิดว่าไม่ได้ใช้ล่ะก็ มันก็จะหายไปกับดอกไม้ค่ะ
ถ้าถามว่าจะลืมทั้งหมดเลยหรอ ก็ไม่ถึงกับขนาดนั้นนะคะ แต่มันจะทำให้คุณคิดช้าลงในการหาคำภาษาอังกฤษที่ตัวเองอยากจะใช้
มีวิธีฝึกฟังหลายอย่างเลยที่เบญใช้กับตัวเอง และดี เช่น
- พูดกับตัวเอง
ไม่ต้องกลัวว่าจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนบ้าหรือเปล่า เพราะใคร ๆ ก็พูดกับตัวเองใช่มั้ยคะ
เราก็แค่เปลี่ยนจากพูดกับตัวเองเป็นภาษาไทย เป็นภาษาอังกฤษแทน
ปกติเรื่องที่เบญจะพูดกับตัวเองก็จะมีเป็น วันนี้เราต้องทำอะไรบ้าง ตื่นเช้ามารู้สึกยังไง หรือบางทีเราทำอะไรผิดตรงไหน ก็มีบ่นกับตัวเองเหมือนกันค่ะ
และถ้าคุณไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ก็ใช้ประโยคจากบทเรียน Survival English ที่เราเรียนมานั่นแหละค่ะ
- พูดกับเพื่อน
ถ้าคุณมีเพื่อนฝรั่ง หรือมีเพื่อนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกัน ก็ชวนกันพูดคุยภาษาอังกฤษได้เลย
- พูดกับครูเจ้าของภาษา
แต่ถ้าไม่มีเพื่อนฝรั่ง หรือเพื่อนคนอื่นที่สนใจพูดภาษาอังกฤษกับคุณเลยจริง ๆ ก็เข้าไปหาครูเจ้าของภาษาช่วยฝึกพูดได้บน iTalki
จะบอกว่ามีครูจากทั่วโลกให้เลือกฝึกพูดด้วยเลย ราคาก็ไม่แพง แถมคุณครูก็ใจดีด้วย

แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องไวยากรณ์ หรือว่ากลัวจะพูดผิดนะคะ เพราะนั่นคือเหตุผลที่คุณเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเบื้องต้น เพราะเรายังไม่เก่ง
แต่การฝึกฝนจะทำให้เราเก่งภาษาได้แน่นอน ไม่ต้องรอวันที่เราเก่งที่สุดและถึงใช้ภาษาอังกฤษนะคะ เพราะว่ามันจะไม่มีวันนั้น นอกจากที่คุณจะเริ่มใช้ภาษาอังกฤษจริง ๆ
ถ้าเราฝึกพูดบ่อย ๆ เราก็จะเริ่มมั่นใจในภาษาอังกฤษของตัวเองและกล้าเอาไปใช้พูดกับเจ้าของภาษา
3. จัดตารางเรียน
ตอนนี้เรามีคอร์สเรียนหลักแล้ว และมีวิธีที่จะช่วยให้คุณฝึกพูด ฝึกฟังเพิ่มระหว่างอาทิตย์แล้ว
ก็ไปลุยขั้นตอนสุดท้ายกันเลย!!
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ ที่แทบจะเป็นตัวกำหนดเลยว่า คุณจะเก่งภาษาอังกฤษได้จริงในปีนี้มั้ย หรือคุณจะเริ่มพูดภาษาอังกฤษได้จริงมั้ย
และเป็นขั้นตอนที่หลาย ๆ คนมักจะมองข้าม และคิดว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็น
แต่บอกจากใจจริง ๆ เลยค่ะ ว่าการจัดตารางเรียนที่ทำตามได้ เป็นเรื่องยาก และต้องใช้ความมีวินัยมากเลย
เพราะทุกคนเองก็ยุ่ง ไม่ว่าจะเป็นทำงานประจำ ดูแลครอบครัว แบ่งเวลาให้ลูก พาน้องหมาไปเดินเล่น ไหนจะต้องใช้ชีวิตออกไปท่องเที่ยว และไปร้านอาหารอร่อย ๆ กับเพื่อนอีก
ถ้าเราไม่จัดเวลาให้กับการเรียนภาษาอังกฤษ คอร์สที่เราซื้อมาก็จะเสียเงินเปล่า และหนังทุกเรื่องที่เราเตรียมจะดูก็จะอยู่แค่ในลิสต์อยากดู แต่ไม่เคยได้ดู
มันก็เลยจำเป็นมาก ที่เราจะต้องนั่งลงและดูตารางชีวิตของเราในตอนนี้ หาเวลาเรียนภาษาอังกฤษให้ตัวเอง และจัดตารางอย่างชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้าง
เช่น ฉันจะเรียน คอร์ส Survival English อาทิตย์ละ 1 บทเรียน ดูหนังภาษาอังกฤษอาทิตย์ละ 1 เรื่อง และฝึกพูดกับครูต่างชาติบน iTalki เดือนละ 1 ชม.
หลังจากนั้นดูตารางงาน และตารางอื่น ๆ ของตัวเอง และเลือกวันและเวลาที่จะแบ่งเวลาเรียนภาษาอังกฤษ
เช่น เรียน Survival English 1 บท ทุกวันจันทร์ ตอน 17:00-17:30 น. ดูหนังฝรั่งเป็นภาษาอังกฤษ ทุกวันพุธ 20.00 และฝึกพูดภาษาอังกฤษบน iTalki ทุกวันเสาร์แรกของเดือน 10.00-11.00 น.
อันนี้เป็นตัวอย่างการจัดตารางเรียนแบบชิว ๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาจริง ๆ แต่ถ้าคุณมีเวลาเยอะกว่านี้ หรืออยากเก่งภาษาอังกฤษแบบเร่งด่วนก็เพิ่มเวลาเรียน และความถี่เพิ่มได้เลย
ปกติแล้วเบญจะใช้ Google Calendar ในการบันทึกสิ่งที่ต้องทำในวันนั้น ๆ หรือจะทำตารางออกมาบน Canva และปริ้นแปะบนกำแพง หรือตั้งเป็นรูปหน้าจอคอมก็ได้
แต่อยากให้เป็นตารางที่ทำตามได้จริง และไม่หนักเกินไปจนไม่มีเวลาพัก หรือเวลาเที่ยว เพราะสุดท้ายเราจะหยุดเรียนไป
รวมถึงอย่าลืมแบ่งเวลาทบทวนบทเรียนที่เรียนไปแล้วด้วย เพราะอย่างคอร์ส Survival English คุณจ่ายครั้งเดียว เรียนได้ตลอดชีพเลย แปลว่าจะกลับเข้าไปทบทวนบทเรียนเดิมเมื่อไหร่ก็ได้
ในขั้นตอนนี้ความท้าทายจะอยู่ที่ว่า เราจะขยันพอที่จะทำตามตารางมั้ย แต่อย่าลืมนะคะ เราควบคุมการจัดตารางได้ 100% เพราะว่าเรียนออนไลน์
เพราะฉะนั้นถ้าลองอาทิตย์แรกแล้ว รู้สึกไม่เวิร์ค หนักเกินไป หรือน้อยเกินไป อาทิตย์ที่สองอาจจะลองเปลี่ยนนิดหน่อย และเปลี่ยนได้ตลอดเลย เอาที่เข้ากับคุณมากที่สุด เพราะจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
และนี่คือ 3 ขั้นตอนแรก ที่จะช่วยให้คุณเริ่มเก่งภาษาอังกฤษได้ในวันนี้ ลองไปทำตามกันดูนะคะ
ถ้ามีคำถามอะไรเกี่ยวกับ 3 นั้นตอน หรือการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเบื้องต้น ก็คอมเม้นไว้ใต้วีดีโอนี้ได้เลย