คุณไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ลูกด้วยตัวเอง
เพียงแค่คุณมีคู่มือนี้ เบญรับรองเลยว่า ภาษาอังกฤษของคุณ และภาษาอังกฤษของเด็ก ๆ จะเริ่มพัฒนามากขึ้น และเห็นการเปลี่ยนแปลงในเร็ว ๆ นี้แน่นอน
ขอเพียงแค่คุณทำตามสิ่งที่เบญแนะนำข้างล่างนี้อย่างสม่ำเสมอ และรอดูลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นที่บ้านของคุณได้เลยค่ะ
และจำไว้นะคะว่า การเรียนรู้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขของอายุ ไม่ว่าลูกคุณจะเด็กแค่ไหน หรือคุณจะแก่แค่ไหน ก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษได้เสมอค่ะ
ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูวิธีที่ 1 และทำตามไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. คำศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ
สิ่งแรกที่คุณต้องการ ก่อนที่จะเริ่มสอนภาษาอังกฤษก็คือ บัตรคำศัพท์ภาษาอังกฤษ หรือ Flashcards ถ้าคุณไม่เคยรู้จัก Flashcards มาก่อน…
Flashcards คือ บัตรรูปภาพที่มีคำศัพท์อยู่ด้วย หรือว่าเป็นแค่แผ่นกระดาษคำศัพท์ นิยมใช้กันมากในการเรียนภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ
เพราะว่า นี่แหละจะเป็นสิ่งหลักที่จะช่วยให้ลูกของคุณเริ่มจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ และทำให้การเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ลูกนั้นประสบความสำเร็จ
คุณพ่อคุณแม่ จะซื้อ Flashcards การ์ดคำศัพท์ภาษาอังกฤษบน แอพ Shopee ก็ได้ เพราะว่าสะดวก สีสัน และก็รูปภาพสวยดีมากเลยค่ะ ไม่ต้องทำเอง
เบญไปเจอ มีคำแปล คำอ่านภาษาอังกฤษ และมีหลายหมวดหมู่ให้เลือก
การ์ดคำศัพท์ 5 หมวด สัตว์ ผัก ผลไม้ ของหวานและเครื่องดื่ม
การ์ดคำศัพท์ 3 หมวด สี เลข และรูปทรง
หรือว่าคุณจะรวบรวมคำศัพท์ และรูปภาพเองในอินเตอร์เน็ต และปริ้นออกมาจากเองก็ได้ เบญแนะนำให้เคลือบด้วยกระดาษใสนะคะ จะใช้ได้ทนกว่า และก็ไม่ขาดง่าย
เบญเองได้ไปเจอคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ EnglishClass101 ที่รวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษฟรีไว้ให้เยอะมากเลย
เหมาะมากที่จะเอาไปทำ Flashcards หรือว่าแค่พาลูก ๆ อ่านตามบนคอม บนมือถือ หรือบนแท็บเล็ตก็ได้ ง่ายมาก

โดยฉพาะกับผู้ปกครองคนไหน ที่รู้สึกว่าภาษาอังกฤษของตัวเองยังไม่แข็งแรงพอ กลัวออกเสียงผิด ก็ใช้คำศัพท์จากคอร์สนี้ได้เลยค่ะ เพราะเค้ามีออกเสียง และอ่านประโยคสั้น ๆ ให้ฟังด้วย
และก็มีหลายหมวดหมู่ให้เลือกเลย นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น:
อย่างที่เบญบอกไว้ว่าถ้าคุณมี Flashcards แล้ว คุณจะทำอะไรกับมันก็ได้ เช่น อ่านออกเสียงวันละหมวดกับลูกของคุณ แม้ว่าลูกของคุณจะยังอ่านตัวเขียนไม่ออก แต่ถ้าเห็นรูป และฟังเสียง ก็จะจำได้แน่นอน
หรือว่าเอามาเล่นเป็นเกม โดยการวางเรียงกันบนพื้น และคุณออกเสียง หรือใช้คอร์สที่เบญแนะนำออกเสียง และให้ลูกของคุณหยิบการ์ดที่ถูกต้องขึ้นมา
แค่ทำแบบนี้ทุกเช้า วันละ 5-10 นาที ไม่นานคุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในลูกของคุณแน่นอนค่ะ น้อง ๆ จะเริ่มจำคำศัพท์ได้ และเริ่มออกเสียงภาษาอังกฤษเป็น
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณยังไม่มี Flashcards ที่บ้าน ต้องรีบจัดแล้วค่ะ 🧐🖨
2. เล่นเกมภาษาอังกฤษ
อีกหนึ่งสิ่งที่คุณต้องมีติดบ้านไว้เลยก็คือ เกมภาษาอังกฤษ! เด็ก ๆ ทุกคนชอบเกมค่ะ ถ้าคุณบอกเค้าว่ามาเรียนภาษาอังกฤษกัน เค้าจะวิ่งหนีทันที แต่ถ้าบอกว่าเล่นเกมละก็…
สำหรับเบญแล้ว เกมที่สนุกมาก ๆ และเด็ก ๆ ทุกคนเล่นได้ก็มีอยู่หลายอย่าง:
เกมภาษาอังกฤษเล่นง่าย ๆ ที่บ้าน
หรืออาจจะเป็นบอร์ดเกมอะไรก็ได้ที่คุณมีอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว แค่ต้องเล่นเกมนั้นเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
เริ่มจากแค่ใช้คำศัพท์ในนั้นเป็นภาษาอังกฤษ ตัวเลขภาษาอังกฤษ และค่อย ๆ เพิ่มเป็นประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ
รับรองว่า คุณและลูก จะได้ใช้ภาษาอังกฤษกันหลายชั่วโมงทุกครั้งที่เล่นเกม และก็สนุกจนลืมไปเลยว่า “จริง ๆ แล้วเราพูดภาษาอังกฤษกันอยู่นะเนี่ย”
3. ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ
เชื่อว่าทุกบ้านต้องดูหนัง การ์ตูน วีดีโอ หรือฟังเพลงกันเป็นประจำอยู่แล้ว
ถ้าคุณอยากให้ลูกของคุณเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น สิ่งง่าย ๆ ที่ต้องทำในข้อนี้ก็คือการที่คุณเปิดสิ่งที่เด็ก ๆ ดูเป็นประจำเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
โดยเฉพาะการ์ตูน ปกติแล้ว สิ่งที่เด็ก ๆ ตั้งใจดูก็คือรูปภาพในนั้น แต่คุณจะเซอร์ไพร์สมากเมื่อรู้ว่าเด็ก ๆ ซึมซับภาษาอังกฤษมามากขนาดไหน ถ้าเค้าดูเป็นภาษาอังกฤษ
ถ้าเป็นเด็กโตหน่อย ก็อาจจะเริ่มโดยการเปิดซัพภาษาไทยช่วยค่ะ และหลังจาก 2-3 เดือน ก็ลองเป็นซัพภาษาอังกฤษ และในที่สุดเค้าจะเข้าใจหนังฝรั่งโดยที่ไม่ต้องเปิดซัพ
ส่วนถ้าเป็นเด็กเล็ก ให้เค้าฟังเพลงภาษาอังกฤษบ่อย ๆ เลยค่ะ ไม่ต้องให้อยู่หน้าจอดูวีดีโอก็ได้ แค่เปิดเป็น background music ให้เค้าฟัง ตอนเค้านั่งระบายสี เล่นของเล่น
และคุณจะได้เห็นการพัฒนาในภาษาอังกฤษของลูก ๆ ไวมากขึ้น คุณจะสังเกตุเห็นพวกเค้าร้องเพลงภาษาอังกฤษ รู้จักคำศัพท์ และประโยคภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นเยอะเลย
4. เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
ต้องขอบคุณยุคสมัย และอินเตอร์เน็ตในช่วงนี้ ที่ทำให้เด็ก ๆ ทุกคนนั้นมีโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับครูเจ้าของภาษา โดยไม่ต้องบินไปเมืองนอก
แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะช่วยสอนภาษาอังกฤษ อยู่บ้างแล้วที่บ้าน แต่เบญเองก็ยังแนะนำให้น้อง ๆ ได้เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ได้ใช้ภาษาอังกฤษของตัวเองกับคนฝรั่งจริง ๆ
เพื่อเพิ่มความมั่นใจของเด็ก ๆ ในการพูดคุยกับชาวต่างชาติ และก็ได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ในยุคที่หลายคนไม่อยากออกจากบ้านค่ะ
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ Cambly เป็นคอร์สที่เบญชอบมาก และดีใจที่มีสำหรับเด็กด้วย

ในคอร์สนี้ เด็ก ๆ จะได้เลือกคุณครูที่เค้าอยากเรียนด้วย อาจจะเปลี่ยนคนทุกชั่วโมงเรียนเลยก็ได้ และเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ที่ว่าง
ที่สำคัญคอร์สนี้ไม่จำเป็นต้องเรียนยาวเป็น ชม. หรือมากกว่า ชม. เค้ามีให้เลือกเป็น 15 หรือ 30 นาที ด้วย
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าเด็ก ๆ ชอบมั้ย ก็เริ่มจากน้อย ๆ ก่อน และค่อยเพิ่มชม. เรียน
คุณครูเค้าได้รับการอบรมมาอย่างดีในการสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก และบทเรียนของเค้าก็ได้รับการยอมรับว่าจะช่วยให้เด็ก ๆ เก่งภาษาอังกฤษได้จริง
ยังไงอย่าลืมลองเข้าไปดูหน้าตาของคอร์สเรียน Cambly และให้เด็ก ๆ ได้เรียนภาษากับเจ้าของภาษาแบบตัวต่อตัวกันนะคะ
รับรองว่าสำเนียงลูก ๆ ของคุณจะเป๊ะไม่แพ้เจ้าของภาษาเลย
5. ใช้ภาษาอังกฤษในบ้าน
สิ่งสุดท้ายที่จะอยู่ใน คู่มือเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ลูกด้วยตัวเองนั้น ก็ง่ายมากเลยค่ะ
สิ่งที่เด็ก ๆ และคุณพ่อคุณณแม่ได้เรียนมาทั้งหมดในข้อ 1-4 เบญอยากให้ทุกคนได้เริ่มใช้ภาษาอังกฤษด้วยกันมากขึ้นที่บ้าน ทำให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
หลายครั้งเบญเห็นเด็ก ๆ ที่โตมาในโรงเรียนอินเตอร์ไม่อยากใช้ภาษาอังกฤษ เพราะเค้าไม่เคยเห็นคนที่บ้านใช้ภาษาอังกฤษกันเลย เค้าเลยรู้สึกแปลก ๆ
แต่เบญเชื่อว่า ถ้าคุณเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ลูกตามสิ่งที่เบญแนะนำมาข้างบนนั้น ภาษาอังกฤษของคุณเองก็จะพัฒนาไปพร้อม ๆ กับลูกด้วย
เพราะฉะนั้น มั่นใจค่ะ! และก็ใช้สิ่งที่คุณรู้ สิ่งที่ที่บ้านของคุณกำลังเรียนอยู่เลย เวลาที่เจอกัน ดูหนังภาษาอังกฤษด้วยกัน และไม่อายที่จะพูดภาษาอังกฤษกันในบ้าน
รับลองว่าลูก ๆ และคุณจะเริ่มเก่งภาษาอังกฤษไปพร้อมกันภายในปีนี้แน่ ๆ
ยังไงก็ตามอย่าลืมเอาคู่มือนี้ไปลองใช้ และแบ่งปันกับคุณพ่อ คุณแม่คนอื่น ๆ ด้วยนะคะ
ถ้ามีคำถามอะไร หรือมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการสอนเด็ก คอมเม้นเข้ามาได้เลยค่ะ เบญเองมีประสบการณ์สอนภาษาอังกฤษเด็กอยู่บ้าง และเชื่อว่าจะช่วยคุณได้ค่ะ 😇