มารู้จัก Freewriting ฝึกเขียนภาษาอังกฤษเก่งขึ้นด้วยตัวเอง

By

วันนี้คุณเองจะได้มารู้อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษ การอ่านภาษาอังกฤษ และการพูดภาษาอังกฤษได้ไวขึ้น

ด้วย Freewriting ที่ใครก็ทำได้ แม้ว่าคุณจะยังไม่เก่งภาษาอังกฤษก็ตาม

และวิธีง่าย ๆ ที่จะเริ่มต้นเขียน Freewriting ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่บ้าน แค่วันละ 5 นาที

ไม่ต้องใช้ความชำนาญในการเขียน หรือไม่ต้องรักในการเขียนก็จะชอบเทคนิคนี้แน่นอน

ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!

YouTube video

Freewriting คืออะไร

Freewriting คือการเขียนแบบอิสระ เขียนอะไรก็ได้ติดต่อกัน 5-20 นาที โดยไม่ต้องสนใจเรื่องแกรมม่า หรือการสะกดคำผิด และเป็นอีกวิธียอดฮิตที่จะช่วยพัฒนาภาษาที่คุณอยากเก่ง

แต่ที่เราจะพูดถึงกันวันนี้ คือการเขียน Freewriting เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยให้ภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นค่ะ

การที่คุณจะพัฒนาภาษาอังกฤษด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่บ้านนั้นมีหลายทาง เช่น

การฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

การฝึกฟังภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

การเรียนภาษาอังกฤษกับคอร์สภาษาอังกฤษออนไลน์

ถ้าคุณเองยังไม่มีคอร์สเรียนภาษาอังออนไลน์อยู่ในใจแล้ว เบญแนะนำให้เข้าไปตามหาคอร์สที่ตัวเองชอบที่เบญได้รวบรวมไว้ให้เลยค่ะ

รับรองได้เลยว่า การมีคอร์สภาษาอังกฤษดี ๆ เรียนควบคู่ไปกับการเขียน Freewriting จะยิ่งช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลย

กลับมาถึงเรื่องการเขียน Freewriting ภาษาอังกฤษ กันดีกว่า…

คุณแค่ใช้เวลาครั้งละ 5-20 นาที เริ่มจากน้อยและค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เขียนเรื่องสั้น ๆ ภาษาอังกฤษ พูดถึงอะไรก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดอยู่ในตอนนั้น วันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง สถานที่ที่อยากไปเที่ยว หรือสิ่งที่อยากทำ

คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งในการเขียน การคิด และการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณอาจจะรู้สึกว่า มันฟังดูยากหรือเปล่า ถ้าคุณไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ แต่อย่าเพิ่งปิดหน้านี้นะคะ อ่านต่อไปเรื่อย ๆ

เบญเชื่อว่าหลังจากอ่านโพสต์นี้จนจบ จะทำให้คุณรู้สึกว่าการเขียน Freewriting ไม่ยากอีกต่อไป และความฝันที่คุณอยากจะเก่งภาษาอังกฤษ ก็ไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมเลยค่ะ

ข้างล่างนี้เบญจะพูดถึงประโยชน์ หรือข้อดีของการเขียน Freewriting คุณจะเข้าไปอ่านก็ได้

หรือว่าถ้าอยากรู้แล้วว่าจะทำไมต้องเขียน Freewriting

การเขียน Freewriting เป็นอีกหนึ่งวิธีหลักที่จะช่วยให้คุณพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด และใช้เวลาไม่นาน

1. ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์

การเขียน Freewriting ภาษาอังกฤษบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับคุณในการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ หรือการเขียนเรื่องสั้นภาษาอังกฤษค่ะ

เพราะว่าคุณจะได้ฝึกเล่าเรื่องเป็นภาษาอังกฤษผ่านการเขียน หรือการพิมพ์ จะทำให้คุณเริ่มแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้ไวขึ้น และก็รู้ว่าหลังจากการพูดประโยคนี้ไปแล้ว คุณจะพูดอะไรต่อดี

และไม่จำเป็นต้องพูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ หรือต้องตามลำดับ 1 2 3 เหมือนที่เคยเรียนมาจากที่โรงเรียน แต่คุณจะได้ปรับเปลี่ยนพื้นฐานนั้นเป็นประโยคของตัวเองมากขึ้น และฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เช่น ปกติคุณเคยเรียนมาว่า ต้องเขียนว่า I want to go to school. ก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้เช่น I don't want to go to school. I wanna go to Robinsons today.

เห็นมั้ยคะ แค่เปลี่ยนบางคำ หรือเพิ่มบางคำในประโยค ก็ทำให้ดูดีขึ้นเลย 🙂

และก็ไม่ใช่แค่การเขียนภาษาอังกฤษของคุณเท่านั้นนะคะที่จะดีขึ้น

รับรองได้เลยว่า การสนทนาภาษาอังกฤษของคุณก็จะหลากหลาย มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และก็ไม่ตะขุกตะขักเวลาที่ต้องพูดภาษาอังกฤษต่อหน้าชาวต่างชาติจริง ๆ ค่ะ

2. ฝึกให้ไม่กลัวความผิดพลาด

บางครั้งเหตุผลที่เรากลัวการใช้ภาษาอังกษของเรา ก็คือว่าเรากลัวที่จะพูดผิด หรือใช้คำผิดในประโยคภาษาอังกฤษของเรา

แต่การเขียน Freewriting นี้จะช่วยให้คุณได้ทำความรู้จัก และคุ้นเคยกับความผิดพลาดมากขึ้น ใช่แล้ว ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ!

คุณต้องเข้าใจว่าการเรียนภาษา ความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ และเป็นสิ่งหลัก ๆ เลยที่คุณจะได้เจอเมื่อคุณก้าวเข้าสู่วงการการเรียนภาษา

แม้ว่ามันทำให้คุณรู้สึกอายบ้างเวลาพูดผิด หรือฟังผิด หรือฟังแล้วไม่เข้าใจ

แต่ข่าวดีก็คือ คุณกำลังพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองอยู่ นั่นคือเหตุผลที่คุณยังทำผิดพลาด และมันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณได้พัฒนามากขึ้น

เพราะคุณจะไม่ได้นั่งแก้คำผิดของคุณ หรือเปิดดิกชันนารีของคุณ ระหว่างที่กำลังเขียน Freewriting ค่ะ แต่คุณจะเขียนมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดเวลา

แต่หลังจากนั้นคุณจะได้ตรวจแกรมม่า และคำศัพท์ภาษาอังกฤษของคุณอีกครั้งด้วยโปรแกรม Grammarly

คุณจะเริ่มจำได้ว่าจะต้องแต่งประโยคแบบไหน และสะกดคำให้ถูกต้องได้ยังไง

เพราะถ้าคุณไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองพูดผิด หรือเข้าใจประโยคนั้นผิด คุณก็จะไม่มีวันอยากแก้ไข หรืออยากรู้ว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไรใช่มั้ยคะ

3. คิดเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น

หลายครั้งเวลาที่เราพูดภาษาอังกฤษ เรามักจะคิดประโยคเป็นภาษาไทยก่อน และก็แปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่บางครั้งมันจะฟังดูแปลก ๆ เพราะการแปลตรงตัวไม่ได้ทำให้ประโยคถูกต้องค่ะ

การที่คุณได้นั่งเขียนภาษาอังกฤษไปเรื่อย ๆ ฝึกทุกวัน หรือหลายครั้งต่ออาทิตย์ จะทำให้การคิดของคุณเปลี่ยนไป

จากที่ต้องคิดเป็นไทยก่อน และค่อยแปลเป็นอังกฤษ คุณจะเริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษเลย

แต่แรก ๆ อาจจะมีช้าบ้าง ผิดบ้าง ก็ไม่เป็นไรค่ะ

เบญสัญญาว่า ถ้าคุณทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้คุณคิดเร็วขึ้น และไม่ต้องแปลคำต่อคำอีกแล้วค่ะ มันจะออกมาอัตโนมัติเลย

4. ได้ใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ตัวเองรู้

แน่นอนค่ะว่าหลายคนที่นี่ เรียนภาษาอังกฤษมานานแล้ว หรือว่าเพิ่งเริ่มเรียน แต่มีคำศัพท์อยู่ในหัวเยอะมาก จำมาเยอะมาก แต่ว่าไม่เคยได้ใช้เลย ทำให้ใช้ไม่เป็นหรือว่าลืมไป

การนั่งเขียนภาษาอังกฤษนี้จะทำให้คุณได้ขุด หรือนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ตัวเองรู้จัก หรือเพิ่งได้เรียนมาใช้จริง

ทำให้เราเข้าใจความหมายของคำศัพท์นั้นมากขึ้น และรู้ว่าต้องเอาไปใช้ในประโยคได้ยังไง

แต่ถ้าใครยังรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ค่อยรู้จักคำศัพท์ภาษาอังกฤษเท่าไหร่ เบญแนะนำให้ไปเติมคลังภาษาอังกฤษพื้นฐานกับ EnglishClass101 ก่อนนะคะ

เค้ามีคำศัพท์ และประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ ให้ได้เรียนกัน เผื่อว่าคุณจะเรียนควบคู่ไปด้วย และก็จะได้เอาคำศัพท์และประโยคนั้นมาใช้กับการเขียน Freewriting ค่ะ

ลงทะเบียนลองเรียนฟรีเลย หรือว่าอ่านรีวิวเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ

Freewriting เหมาะกับใคร

การเขียน Freewriting นั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่อยากเป็นนักเขียน หรือใช้การเขียนภาษาอังกฤษในการทำงานเท่านั้น แต่เหมาะกับทุกคนเลยค่ะ

ไม่ว่าคุณจะเรียนภาษาอะไรอยู่ อายุเท่าไหร่ หรืออยากเก่งภาษาอะไร

แค่คุณมีสมุด-ปากกา หรือคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมช่วยตรวจภาษาอังกฤษ คุณเองก็เริ่มเขียน Freewriting และพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่บ้านง่าย ๆ เลย

แต่มันอาจจะอยากนิดหน่อยสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ และยังจำคำศัพท์ไม่ได้มาก หรือจำการสะกดคำภาษาอังกฤษไม่ได้ทั้งหมด

แต่บอกไว้เลยค่ะว่า Freewriting จะช่วยให้คุณได้เห็นการพัฒนาในการเขียนภาษาอังกฤษของคุณแบบก้าวกระโดดแน่นอน

วิธีเขียน Freewriting

1. เตรียมตัว

การเขียน Freewriting ไม่ได้จำกัดที่ว่าต้องเป็นแค่สมุดกับปากกาเท่านั้นถึงจะทำได้

สำหรับเบญเอง เบญชอบพิมพ์ลงไปบนโน๊ตบุ๊คของตัวเองมากกว่าค่ะ เพราะว่าไม่ได้เขียนบนสมุดนาน ทำให้ลายมือตอนนี้คืออ่านไม่ออกเลย

และอีกอย่างมันทำให้ตรวจภาษาอังกฤษของตัวเองง่ายด้วยค่ะ

ที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ โหลดโปรแกรมตรวจแกรมม่า และการสะกดคำผิดไว้ใช้บนคอมของคุณด้วยค่ะ

เบญใช้ของ Grammarly ที่ได้พูดไปข้างต้นแล้วบ้างนิดหน่อย

เป็นโปรแกรมที่ใช้ง่ายมากเลยค่ะ และก็ใช้ฟรีด้วยเบื้องต้น หลังจากดาวน์โหลดแล้วคุณก็จะได้ตัวช่วยแบบนี้อยู่บน Browser ที่คุณใช้เลยค่ะ ของเบญเป็น Chrome

รีวิว โปรแกรมตรวจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ Grammarly

อ่านรายละเอียดวิธีการติดตั้งโปรแกรม Grammarly >> เพิ่มเติมได้เลย

โดยปกติแล้ว เบญจะเขียน Freewriting บนหน้า Google doc ค่ะ แต่ตอนที่เราเริ่มเขียน เราจะปิดโปรแกรมนี้ไว้ก่อนนะคะ ไว้เปิดหลังจากที่เขียนเสร็จค่ะ

ถ้าคุณเตรียมอุปกรณ์ โปรแกรม และสถานที่เงียบ ๆ ไว้พร้อมแล้ว ก็ไปดูกันต่อได้เลยค่ะว่าขั้นตอนต่อไปนั้นคุณต้องทำอะไร…

2. เปิดความคิดออกกว้าง

ขั้นตอนนี้เองก็สำคัญไม่แพ้ข้อที่ 1 เลย

คุณเองต้องเปิดความคิดของคุณให้กว้าง และลองตัดสินใจดูว่าอยากจะเขียนเกี่ยวกับอะไร บางครั้งไม่ต้องมีหัวข้ออยู่ในหัวก็ได้ แค่เขียนอะไรก็ได้ลงไป

แต่เบญเข้าใจว่าบางครั้งเราเองไม่มีอะไรอยู่ในหัวในตอนนั้นจริง ๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเขียน Freewriting ในตอนเช้าที่เพิ่งตื่น

เพราะฉะนั้นเตรียมหัวข้อไว้บ้างก็ดีค่ะ เผื่อว่าเราไม่มีอะไรจะเขียนจริง ๆ ในตอนนั้น ก็แค่เลือก 1 หัวข้อและก็เริ่มเขียนได้เลย เช่น

สถานที่ท่องเที่ยวในฝัน

ความประทับใจที่เกิดขึ้นเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้ว

สัตว์เลี้ยงตัวโปรด

นิยามการประสบความสำเร็จใจแบบของฉัน

หรือถ้าคุณเพิ่งเริ่มเขียน หรือรู้สึกว่าภาษาอังกฤษของคุณยังอยู่ระดับพื้นฐานมาก ๆ ยังไม่ค่อยรู้จักคำศัพท์เยอะมาก ก็อาจจะเลือกหัวข้อง่ายกว่านี้ เช่น

ของกินที่ฉันชอบ

ครอบครัวของฉัน

สิ่งที่ฉันชอบทำในวันหยุด

และมีอีกหลายอย่างเลยค่ะที่คุณเขียนลงไปใน Freewriting ได้ บางครั้งอาจจะไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับตัวคุณ หรือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงก็ได้

อาจจะเป็นเรื่องที่คุณแต่งขึ้น นิทานที่คุณเคยอ่าน หรือเขียนเกี่ยวกับบางสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงก็ทำได้ค่ะ

แต่คุณต้องห้ามปิดกั้นความคิดของตัวเอง หรือกลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี หรือไม่เข้าใจ โยนความสมบูรณ์แบบทิ้งไปเลยค่ะ และเริ่มเขียนอะไรก็ได้ออกมา!

3. จับเวลา และเริ่มเขียน

ในการเขียน Freewriting นั้น คุณจะเริ่มจากแค่ 5 นาทีก่อนก็ได้ค่ะ และหลังจากนั้นค่อยเพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ

ส่วนตัวแล้ว สำหรับเบญ 10 กำลังดีสำหรับเบญค่ะ ถ้าฝึกไปเรื่อย ๆ อาจจะไปได้ถึง 15-20 นาทีเลยค่ะ แต่เริ่มจากน้อย ๆ และก็เพิ่มขึ้นดีกว่า จะได้ไม่ยากจนเกินไปค่ะ

สิ่งนึงที่ต้องจำไว้ก็คือ คุณห้ามหยุดเขียนจนกว่าเวลาจะหมดค่ะ อาจจะมีบางตอนที่สะดุด คิดไม่ค่อยออก แต่ห้ามวอกแวกเด็ดขาด และค่อย ๆ เขียนต่อไปเรื่อย ๆ จนหมดเวลา

No description available.

ครั้งแรก ๆ ที่เบญเริ่มเขียน Freewriting เบญบอกได้เลยค่ะว่าค่อนข้างยาก เพราะเราไม่แน่ใจว่าจะต้องพิมพ์อะไรลงไป คิดเยอะ และก็มัวมองแต่เวลาที่จับไว้ว่าจะหมดเมื่อไหร่

แต่พอเขียนไปนาน ๆ ก็โอเคนะคะ ไหลลื่นขึ้น และไม่ได้รู้สึกว่า 10 นาทีนานขนาดนั้น

และไม่ต้องไปสนใจค่ะ ว่าตัวเองพิมพ์ถูกหรือผิด แกรมม่าแย่ขนาดไหน เขียนไปเรื่อย ๆ จนเสียงนาฬิกาจับเวลาของคุณดังขึ้น และค่อยหยุดนะคะ 🙂

4. แก้ไขความผิดพลาด

อย่างที่เบญบอกไว้หลายครั้งเลยนะคะข้างบนว่า ระหว่างที่กำลังเขียน Freewriting เราจะไม่แก้อะไร หรือว่าไปดูใน Google ว่าคำนี้เขียนยังไง

แต่พอหมดเวลา เราจะเปิด Grammarly กลับมาใช้งานตามปกติ และเราจะเห็นความผิดพลาดหลายจุดที่เราได้เขียนไว้

แต่อย่างที่บอก เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกอาย หรือรู้สึกหมดกำลังใจว่าเรายังเขียนภาษาอังกฤษผิดเยอะอยู่เลย แต่ให้คิดว่านี่เป็นการเรียน และพัฒนาอย่างหนึ่งค่ะ

อย่างที่เห็นในรูปนะคะ Grammarly จะบอกว่ามีจุดไหนบ้างที่เราต้องแก้ไข เช่น คอมม่า หรือการใช้สัญลักษณ์ในภาษาอังกฤษ

รวมถึงให้เราเอาคำที่ไม่จำเป็นในประโยคนี้ออกด้วย เหมือนรูปข้างล่างนี้จ้า และเราเองก็แก้ตามที่ Grammarly บอกได้เลย

แต่นี่เป็นบัญชีฟรีที่เบญสร้างขึ้นมานะคะ ถ้าคุณอยากได้ฟังก์ชั่นมากกว่านี้ เช่นแก้ประโยคให้ฟังดูดี และดูเป็นธรรมชาติขึ้น

ก็อัพเกรดบัญชี Grammarly ของคุณได้เลยค่ะ ราคาไม่แพงด้วย และก็จะได้ตัวช่วยแบบเต็มระบบเลย

ถ้าคุณอยากจะเริ่มเขียน Freewriting เพื่อชช่วยฝึกภาษาอังกฤษของคุณวันนี้ ก็อย่าลืมที่จะโหลด Grammarly ไว้เป็นตัวช่วยทำให้เรื่องของคุณสมบูรณ์มากขึ้นนะคะ

5.อ่านออกเสียงเรื่องที่เขียน

หลังจากที่คุณได้เขียน Freewriting เสร็จแล้ว แก้ไขให้คุณถูกต้องด้วยโปรแกรม Grammarly แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณก็คือ…

อ่านเนื้อเรื่องที่ตัวเองได้เขียนไว้ค่ะ

เบญเชื่อว่าคุณจะได้เรียนประโยคภาษาอังกฤษใหม่ ๆ จากการเขียนในครั้งนี้ และอาจจะมีคำศัพท์ที่คุณลืมไปนานแล้วและได้กลับมาใช้อีก

การทำแบบนี้จะช่วยให้การเขียนภาษาอังกฤษดีขึ้น และช่วยให้การพูดภาษาอังกฤษของคุณดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

ปกติแล้วเบญจะเซฟ ไฟล์ Freewriting ของตัวเองทั้งหมดไว้ในโฟล์เดอร์เดียวกัน และกลับมาอ่านซ้ำบ่อย ๆ ฝึกการออกเสียงและการพูดภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีขึ้น

และพอได้เขียน Freewriting ไปแล้วพักนึง คุณจะได้กลับไปอ่านเรื่องเก่า ๆ ที่คุณได้เคยเขียนไว้

เชื่อว่าคุณจะได้เห็นพัฒนาการของตัวเองในภาษาอังกฤษ เริ่มภูมิใจในตัวเอง และรู้ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้จริงและทำต่อไปค่ะ

ยังไงอย่าลืมไปลองฝึกเขียน Freewriting ภาษาอังกฤษดูนะคะ และกลับมาคอมเม้นให้อ่านบ้างว่าเทคนิคช่วยให้คุณพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณได้จริงมั้ย

เลือกการแจ้งเตือน *สำคัญมาก
แจ้งเตือน
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
ดูคอมเม้นทั้งหมด

ปลดล็อค ความมั่นใจ ในภาษาอังกฤษของคุณด้วย Survival English Course เพิ่งเริ่มเรียน ก็เก่งได้

เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้

เรียนกับเจ้าของภาษา

บทเรียนวิดีโอสนุก เข้าใจง่าย

ถูกกว่าโรงเรียน 99%