7 สิ่งที่พิสูจน์แล้วว่า ถ้า “อยากเก่งภาษาอังกฤษ” ต้องทำ ?

By

ในยุคปัจจุบัน การเก่งภาษาอังกฤษ จะช่วยเปิดโอกาส และเปิดโลกของคุณให้กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความสัมพันธ์ การท่องเที่ยว และอื่น ๆ

เราทุกคนเข้าใจว่า การเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งเนั้น ก็เป็นความท้าทาย ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยลองทำแล้ว แต่รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้ไปถึงฝั่งฝันสักที

ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มอยากเก่งภาษา หรือว่าเคยลองมาหลายแบบแล้วแต่ไม่เห็นผล

7 สิ่งข้างล่างนี้ ที่เบญเอามาฝาก จะช่วยให้คุณได้เริ่มเก่งภาษาอังกฤษจริง ๆ วันนี้ และช่วยคุณประสบความสำเร็จในด้านภาษาอังกฤษได้ในไม่ช้า

พร้อมแล้วไปเก่งอังกฤษด้วยกันเลย!

1. เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูฝรั่ง

สิ่งที่คุณจะพลาดไม่ได้เลยในการเรียนภาษาอังกฤษแบบคนที่ตั้งใจอยากเก่งภาษาอังกฤษจริง ๆ ก็คือการเรียนกับครูฝรั่งค่ะ

แต่จะไม่ใช่การเรียนจากที่ไหนก็ได้ แต่เป็นการเรียนตัวต่อตัวออนไลน์กับ iTalki

เพราะว่านอกจากจะประหยัดเวลาในการเดินทางแล้ว ยังมีครูให้เลือกเรียนด้วยเยอะมากกก และเรากำลังพูดถึงเยอะในจำนวนมากกว่า 5,000 คนเลยจ้า

เหตุผลหลัก ๆ ที่ iTalki จะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้จริง ก็เพราะ…

● ได้ใช้ภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาทั้งชั่วโมง

จะมีอะไรที่จะพาคุณไปถึงความฝันที่จะเก่งภาษาอังกฤษได้ดีมากกว่าการเรียนกับเจ้าของภาษาจริง ๆ และไม่ใช่แค่ 5-10 นาทีเท่านั้น แต่ทั้งชั่วโมงเลย!

(จริง ๆ เลือกได้ว่าจะอยากเรียน 30, 45 หรือ 60 นาที)

โดยส่วนตัวเบญแนะนำให้เรียนแบบ 1 ชั่วโมงค่ะ รู้สึกว่ามันกำลังดี และเราก็กำลังอยู่ในจุดที่หายเขิน และเริ่มตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ

iTalki

แอบกระซิบดัง ๆ ว่า คุณครูใจดี และใจเย็นมาก ถึงแม้เราจะพูดไม่ค่อยเป็น พูดผิด ฟังไม่ทัน คิดคำนาน ลืมบ้างอะไรบ้าง แต่ครูก็ช่วยตลอด

เป้าหมายของคุณครูคือให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษได้มากที่สุด

● ได้คอมเม้นและคำแนะนำจากครูหลังเรียนเสร็จ

คุณครูจะถามเราว่า เราอยากจะได้การบ้านมั้ย หรือว่าอยากให้คุณครูแก้เวลาเราพูดผิดตอนเรียนเลยหรือเปล่า หรือจะให้เขียนโน๊ตให้ทีหลัง เราก็เลือกบอกครูได้เลย

แต่สิ่งที่เบญได้จากการที่ได้เข้าไปเรียนกับ iTalki ก็คือ คอมเม้นหลังการเรียนด้วย ว่าวันนั้นเราเรียนเป็นยังไงบ้าง มีอะไรที่เราต้องไปฝึกเพิ่มบ้าง

ทำให้เรารู้ว่าตัวเองเข้าใจ และพูดได้มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญเอาสิ่งที่เราพูดผิดมาฝึกพูดใหม่ให้ถูก เป็นการรีวิวบทเรียนของวันนั้นไปด้วย

การทำแบบนี้คุณเองจะเรียนภาษาอังกฤษได้ไวขึ้น เพราะเหมือนมีติวเตอร์ส่วนตัว บอกเราตลอดเวลาเราเราควรพูดยังไง ออกเสียงยังไง แต่อันนี้ต้องใช้ยังไงให้ถูกต้อง

เป็นทั้งครู เพื่อนฝึกภาษา คนตรวจแกรมม่าให้อีก จ่าย 1 ได้ถึง 3 เลยค่ะ ?

2. ฝึกออกเสียงตาม สำเนียงเป๊ะชัวร์

ภาษาอังกฤษมีหลายสำเนียงมากขึ้นอยู่กับประเทศนั้น ๆ แต่สำเนียงหลัก ๆ ที่คนฝึกและใช้กันบ่อยก็คือ ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน และภาษาอังกฤษบริทิช

ยิ่งถ้าคุณรู้ว่าตัวเองชอบภาษาอังกฤษสำเนียงแบบไหน และฝึกให้ตรงสำเนียง รับรองว่าจะยิ่งทำให้คุณเก่งภาษาอังกฤษไวหลายเท่าเลย

การฝึกออกเสียงก็ไม่ได้ยากเลยค่ะ แค่คุณต้องฟังบ่อย ๆ ด้วย และพยายามออกเสียงตามให้ได้มากที่สุด

ส่วนตัวแล้วเบญคิดว่า ตัวช่วยที่ดีที่สุดในการฝึกออกเสียง ก็คือ EnglishClass101

เพราะว่าเค้ามีเนื้อเรื่องหลากหลายหัวข้อให้เราลองฝึก เป็นบทสนทนาภาษาอังกฤษโต้ตอบ ที่สำคัญเค้าแบ่งท่อนสั้น ๆ มาให้แล้ว

เราก็แค่กดฟังกี่ครั้งก็ได้เท่าที่เราต้องการ และกดบันทึกเสียงตัวเองพูดตาม จนกว่าจะออกเสียงได้เหมือนกับต้นฉบับเจ้าของภาษาจริง ๆ

แนะนำให้ฝึกว่าละ 10-15 นาที รับรองว่าสำเนียงของคุณจะพัฒนาขึ้นแน่นอน

3. ฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบกลุ่ม

จะบอกว่าสิ่งนี้เปิดตา เปิดใจ และเปิดโลกการเรียนภาษาอังกฤษของเบญมาก ๆ

เบญได้ไปเจอกับคอร์ส Lingoda ที่คุณเลือกเรียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่มได้ ฝึกพูด ฟังได้ทั้งชั่วโมง กับคุณครูเจ้าของภาษา

แต่สิ่งที่พิเศษมาก ๆ ก็คือ คุณเองจะได้เรียนกับเพื่อนต่างชาติ ที่คุณไม่เคยเจอหน้า ไม่เคยได้ยินเสียงมาก่อน แต่จะมารวมอยู่ในห้องเดียวกัน

Lingoda เรียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่ม

ตอนแรกเบญเองก็แอบกลัวอยู่ว่า เราจะกล้าพูดมั้ย และถ้าพูดผิดเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนจะหัวเราะเยาะหรือเปล่า

เมื่อได้ทดลองเรียนกับ Lingoda ด้วยตัวเองจริง ๆ ก็ถึงบางอ้อว่า ไม่มีใครมานั่งจับผิดภาษาอังกฤษของเราเลยค่ะ

เพราะทุกคนก็อยู่ในระดับประมาณเรา อยากเก่งภาษาอังกฤษเหมือนเรา

สนุกมาก แถมคุณครูก็จะพยายามให้เราได้ฝึกพูดบ่อย ๆ ได้ผลัดกันอ่าน ผลัดกันตอบ

ใครที่ยังไม่เคยลองฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบกลุ่ม ต้องห้ามพลาดเลยนะคะ (แอบกระซิบด้วยว่า เค้ามีให้ลองเรียนฟรี 7 วันด้วยจ้า)

4. ฟังภาษาอังกฤษเป็นประจำ

ปกติเราเอง ได้ยินภาษาอังกฤษอยู่แล้วในชีวิตประจำ ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ที่บางครั้งในภาษาไทยเราก็ใช้ หรือว่าคำศัพท์ที่เราใช้ในที่ทำงาน

การฟังเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้เราเข้าใจว่าคนที่เราคุยด้วยต้องการอะไร และเราจะได้เลือกตอบอย่างถูกต้องค่ะ

การฝึกหูของเราให้ชินกับสำเนียงเจ้าของภาษาก็สำคัญด้วย และมีหลายกวิธีที่จะช่วยให้คุณฝึกภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เช่น

ฟังเพลงภาษาอังกฤษ

ดูหนังภาษาอังกฤษ

ฟัง podcast ภาษาอังกฤษ

ฟังนิทานภาษาอังกฤษ

หลายคนที่ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษเลย แต่ฟังเพลงภาษาอังกฤษบ่อยแล้วร้องเป็นภาษาอังกฤษได้มั้ยคะ หรือว่าเด็กที่ไม่เคยไปโรงเรียน แต่ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ และพูดได้

เป็นหลักการเดียวกันเลยค่ะ ฝึกฟังบ่อย ๆ จนชิน และเราก็จะรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มแบบอัตโนมัติ

5. แต่งประโยค เขียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

ถ้าคุณเป็นอีกคนที่ไม่ชอบการแต่งประโยคเลย ได้ยินคำว่า เขียนภาษาอังกฤษทีไร ก็หัวหมุนขึ้นมาทันที เพราะมันมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้เหลือเกิน

จากก้นบึ้งของหัวใจเบญ ขอบอกไว้เลยว่า จริง ๆ แล้วการแต่งประโยค หรือการเขียนภาษาอังกฤษนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยากขนาดนั้น

โดยเฉพาะว่าคุณทำข้อ 1-4 อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว คุณเองก็จะมีคำศัพท์ใหม่เยอะมาก ๆ และเริ่มเข้าใจหลักการแต่งประโยคสั้น ๆ แล้ว แบบที่ไม่ต้องนั่งท่องแกรมม่า

วิธีเริ่มต้นง่าย ๆ ก็มี 2 แบบตามข้างล่างนี้…

ฝึกแต่งประโยคสั้น ๆ

เอาคำศัพท์ที่มี มารวมเข้าด้วยกันเป็นประโยคสั้น ๆ เข้าไปอ่านในโพสต์นี้เพิ่มเติม และคุณจะรู้ว่า การแต่งประโยคไม่ยากเลยจริง ๆ

เขียน Freewriting วันละ 5 นาที

เพิ่มความยากขึ้นอีกหน่อย ถ้าคุณแต่งประโยคเป็นแล้ว เอามารวมกันเป็นเรื่องสั้น ๆ

การแต่งประโยค และการเขียนภาษาอังกฤษ จะช่วยให้คุณเริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษ มากกว่าแค่แปลจากไทยเป็นอังกฤษ แล้วประโยคมันเพี้ยน ๆ

และเมื่อคุณต้องใช้พูดจริง ๆ หรือตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ คุณก็จะไม่ต้องคิดนาน

6. ให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำในชีวิตประจำวัน พยายามให้ภาษาอังกฤษอยู่ในนั้นมากที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นภาษาที่ใช้บนโทรศัพท์ บนคอมพ์ หรือว่าบนโทรทัศน์ ลองเปลี่ยนไปใช้ภาษาอังกฤษดูสิคะ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณได้เรียนคำศัพท์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเยอะมากเลย

หรือว่าตอนที่นั่งรอรถกลับบ้าน อยู่บน bts หรือตอนที่มีเวลาว่างหลังกินข้าวพักกลางวัน แทนที่จะหยิบมาไถอยู่บนโลกโซเชี่ยลเล่น ๆ

ก็โหลดแอพฝึกภาษาอักฤษ ไม่ก็หาเกมภาษาอังกฤษมาเล่นได้เลย

หรืออยากดูอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่หนัง ก็เลือกเป็นช่อง YouTube ที่เป็นภาษาอังกฤษด้วย เราจะก็ได้ภาษาอังกฤษไปแบบอัตโนมัติเลยค่ะ

ส่วนตัวเบญชอบดูช่องทำอาหารของ Inga Lam, ช่องเล่นเกมของ Kelsey Impicciche, ช่องรีวิวแฟชั่นของ HopeScope, และก็ช่องเรียนภาษาอังกฤษของ Fight For Fluency

YouTube video

มีช่องไหนอีกที่คุณชอบดู เป็นภาษาอังกฤษ ก็มาแบ่งปันกันได้เลยนะคะ

ใช่ค่ะ อาจจะมีบางครั้งเรารู้สึกว่าไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเลย แต่จริง ๆ แล้วเราแค่ต้องสร้างโอกาส และก็ทำเลยแค่นั้นเอง

7. เข้ากลุ่ม หาเพื่อนฝึกภาษาอังกฤษด้วย

ไม่แน่ใจว่าคุณเคยได้ยินชื่อเว็บไซต์ Meetup หรือเปล่า แต่จะบอกว่าถ้าคุณยังไม่เคย วันนี้เป็นโอกาสที่ดีของคุณมาก ๆ เลยค่ะ

ถึงแม้ว่าชื่อจะทำให้เรานึกถึงแอพหาคู่ แต่จริง ๆ ไม่ใช่นะคะ ??

เป็นเว็บไซต์ที่รวมกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน เช่น กีฬา คาเฟ่ อาหาร อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ และที่สำคัญแลกเปลี่ยนภาษากัน

แค่พิมพ์ว่า English และก็ใส่ชื่อจังหวัดที่คุณอยู่ ก็จะมีกลุ่มเยอะมากเลยให้เลือกดู และเข้าไปขอร่วมด้วย ของเบญเจอทั้งแบบกลุ่มเจอหน้ากัน และก็ออนไลน์เลยค่ะ

meetup english

ส่วนใหญ่กลุ่มจะเข้าฟรีนะคะ แค่อาจจะเสียค่าขนม กาแฟ หรืออาหาร แล้วแต่ว่าไปที่ไหน

ถึงแม้ว่าการเข้ากลุ่มแบบนี้ คุณจะไม่ได้นั่งเรียนแบบจริงจัง หรือมีบทเรียนอะไรให้ แต่ว่าคุณจะได้เจอกับเพื่อนใหม่จากหลายประเทศ ที่อยากฝึกภาษาอังกฤษมารวมตัวกัน

ใครอยู่แถวกรุงเทพ และเจอกลุ่มดี ๆ แวะมากระซิบบอกเบญบ้างน๊า ?


อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าเบญจะได้ช่วยโน้มน้าวใจคุณว่า คุณเองก็เก่งภาษาอังกฤษได้เหมือนกัน

แต่อย่าลืมนะคะว่า การเก่งภาษาอังกฤษต้องใช้เวลา ความอดทน การลงทุน และความตั้งใจควบคู่ไปด้วยกัน และห้ามยอมแพ้เด็ดขาด

เพราะว่าผลลัพธ์นั้นมันคุ้มค่ามาก ๆ เลย ??

เลือกการแจ้งเตือน *สำคัญมาก
แจ้งเตือน
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
ดูคอมเม้นทั้งหมด

ปลดล็อค ความมั่นใจ ในภาษาอังกฤษของคุณด้วย Survival English Course เพิ่งเริ่มเรียน ก็เก่งได้

เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้

เรียนกับเจ้าของภาษา

บทเรียนวิดีโอสนุก เข้าใจง่าย

ถูกกว่าโรงเรียน 99%