มีหลายวิธีเลยที่คุณอาจจะเคยได้ยิน และเคยทำ ที่จะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้ เช่น
แต่คุณอาจจะไม่เคยรู้ว่าสิ่งที่คุณทำทุกวัน หลายชม. ต่อวันด้วย ก็ช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้ นั่นก็คือ การดูหนัง ดูวีดีโอ หรือดูโชว์ต่าง ๆ
คุณจะปิดหน้าต่างนี้และเริ่มไปลองทำด้วยตัวเองเลยก็ได้ แต่ถ้าคุณอยู่ต่อ และเรียนรู้เคล็ดลับข้างล่างที่เบญรวบรวมมาให้นี้ คุณจะได้ทางลัดในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยการดูหนัง
นี่เป็นเคล็ดลับที่เบญได้ลองทำมากับตัวเองแล้วได้ผลจริง เลยอยากจะเอามาแบ่งปันให้กับเพื่อนร่วมฝันที่อยากเก่งภาษาอังกฤษเหมือนกันค่ะ
ดูหนังช่วยให้เก่งภาษาอังกฤษจริงมั้ย
จริงค่ะ การเรียนภาษาอังกฤษผ่านการดูหนัง ดูทีวีโชว์ หรือดูวีดีโอ จะช่วยพัฒนาการฟังภาษาอังกฤษ สำเนียง คำศัพท์ ประโยค การสนทนา คำแสลง การออกเสียง และ อื่น ๆ ของคุณได้ไวอย่างไม่น่าเชื่อเลย
เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังคิดที่อยากจะเริ่มฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองในระหว่างที่ดูหนังเรื่องโปรด เบญบอกได้เลยว่า “Go for it!” ลุยเลยค่ะ
แต่อย่าลืมทำตามเคล็ดลับข้างล่างนี้ เพราะมันจะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้ไวขึ้น และไม่ต้องนั่งงงว่าฉันดูหนังภาษาอังกฤษมาเป็นปีแล้ว แต่เหมือนไม่ได้เรียนอะไรเลย
10 เคล็ดลับ ฝึกภาษาอังกฤษผ่านการดูหนัง
1. ดูหนังเป็นภาษาอังกฤษ และเปิดซัพภาษาอังกฤษ
คุณอาจจะกำลังสงสัยว่า ถ้าดูหนังภาษาอังกฤษ แล้วอยากฝึกภาษาอังกฤษ คุณควรจะเปิดซัพไทยดีไหม? ซัพอังกฤษดีกว่าหรือเปล่า? หรือว่าไม่เปิดเลยดีกว่านะ?
แต่จริง ๆ แล้วถ้าเราตั้งใจจะเรียนภาษาอังกฤษ ซัพไตเติ้ลก็เป็นตัวช่วยอีกอย่างที่จะทำให้เราเข้าใจ และเก่งภาษาอังกฤษเร็วขึ้นค่ะ
สำหรับเบญแล้ว ถ้าคุณเพิ่งเริ่มอยากจะเรียนภาษาอังกฤษจากการดูหนัง เบญแนะนำให้ดูซัพไทยไปก่อน แต่ในตอนที่ดูซัพไทย ก็พยายามฟังคำภาษาอังกฤษไปด้วย
หลังจากนั้นประมาณ 3-4 อาทิตย์ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นซัพภาษาอังกฤษได้เลยค่ะ ดูซัพอังกฤษจะช่วยให้คุณจับคำภาษาอังกฤษในประโยคในหนังได้มากขึ้น
แต่อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมดว่าหมายถึงอะไร ซึ่งไม่ต้องกังวลเลยนะคะ เดี๋ยวก็จะเริ่มปรับตัวได้เองค่ะ หรือว่าจะดูเรื่องเดิมที่เคยดูซัพไทยก็ได้ รับรองว่าจะได้คำศัพท์เพิ่มแน่นอน
และสุดท้ายแล้ว พอผ่านไประยะนึง หรือว่าดูการ์ตูนที่คำศัพท์ง่าย ๆ ลองปิดซัพไปเลย และดูแบบไม่มีซัพก็ได้ค่ะ ลองสังเกตุดูว่าคุณเข้าใจมากแค่ไหนถ้าไม่มีซัพ
จะทำให้คุณรู้สึกดีว่าคุณกำลังพัฒนาการฟังของตัวเองมากขึ้น
แต่สุดท้ายแล้ว เบญคิดว่าซัพที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาภาษาอังกฤษได้เร็ว คือการดูหนังภาษาอังกฤษ+ซัพภาษาอังกฤษค่ะ
2. จดคำที่เราได้ยินบ่อย ๆ
เบญอยากแนะนำให้คุณจดคำศัพท์ หรือประโยคสั้น ๆ ที่ตัวเองไม่รู้จัก หรืออาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจากหนังที่คุณดู แต่ไม่ต้องนั่งตาแข็ง พยายามจดทุกคำนะคะ คำไหนฟังไม่ทัน ก็ปล่อยไป
ถ้าคุณคิดว่า ฉันเพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ แทบไม่รู้จักเลยสักคำ จะเลือกจดคำไหนดี…
เบญแนะนำให้จดคำที่คุณได้ยินซ้ำบ่อย ๆ ในเรื่องนั้น เพราะมันมีโอกาสว่าคำนั้นจะเป็นคำที่คนฝรั่งใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน และนั่นคือสิ่งที่เราอยากเรียนค่ะ
บางครั้งเบญก็จะจดคำที่เคยได้ยินบ่อยแต่ยังไม่เคยเอาไปใช้ แต่ได้ยินในหนังเรื่องนี้เหมือนกัน ก็จะจดไว้แล้วเอาไปแปล และลองใช้ทีหลัง
เพราะการจดจะทำให้คุณจำได้มากขึ้น และช่วยเตือนว่าคุณได้เรียนคำว่าอะไรบ้างจากหนังเรื่องนี้ เป็นการเร่งสปีดการเรียนนี้ให้ประสบความสำเร็จไวขึ้นอีกด้วยค่ะ
หลังจากนั้นก็ลองเอาไปแปลหาความหมายคร่าว ๆ ในกูเกิ้ลแปลภาษาได้เลยนะคะ และก็เก็บไว้เป็นคลังคำศัพท์ และประโยคภาษาอังกฤษของเรา
3. ฟังภาษาอังกฤษมาแบบไหน = พูดตามแบบนั้น
อาจจะเป็นเพราะวิชาภาษาอังกฤษที่เราเรียนมาที่โรงเรียน เลยทำให้เราอยากพูดถูกหลักแกรมม่า 100% หรือพูดแบบสุภาพมาก ใช้แต่คำยาก ๆ
แต่ในชีวิตจริง แม้แต่เจ้าของเอง เค้ายังไม่ได้พูดตามแกรมม่าตรงเป๊ะ หรือว่าเอาคำใหญ่ ๆ มาใช้เลยด้วยซ้ำ เพราะมันดูทางการมากเลยค่ะ
ถ้าคุณอยากจะคุยกับเพื่อนฝรั่ง หรืออยากจะแค่เอาภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวัน มันสำคัญมากที่คุณดูและฟังว่าหนังเรื่องนั้นพูดภาษาอังกฤษยังไง
และคุณจะรู้เลยว่า สิ่งที่เราเรียนมาว่า Good morning teacher, thank you teacher, sit down please อาจจะไม่ใช่ประโยคที่เราใช้จริงในชีวิตประจำวันก็ได้
คุณจะได้ประโยคใหม่ ๆ และวิธีพูดใหม่ ๆ จากหนัง เช่น have a seat และ please sit here แทน sit down
ที่สำคัญอย่าลืมเลียนแบบท่าทาง มือ หรือสีหน้ามาด้วยนิดหน่อยนะคะ เวลาที่เราพูดจริง จะได้ดูเหมือนธรรมชาติ ถ้าคุณไม่รู้ว่าต้องทำมือยังไงเวลาพูดภาษาอังกฤษ
ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเวอร์เกินค่ะ เพราะว่าเราลดลงตามกาละเทศะของคนไทยได้ทีหลัง
4. ลองจับใจความประโยคสั้น ๆ
เบญทำแบบนี้บ่อย ๆ เวลาที่ดูหนังภาษาอังกฤษค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้ใส่คำแปลภาษาไทย ถ้าได้ยินตัวละครพูดอะไร อาจจะเป็นประโยคสั้น ๆ เบญจะลองแปลเป็นไทยในใจดู
เพราะวิธีนี้จะทำให้คุณรู้สึกว่า จริง ๆ แล้วฉันก็เริ่มฟังภาษาอังกฤษออกบ้างแล้วนะ หรือว่า 2 เดือนก่อน ฉันยังฟังไม่ค่อยออก แต่เดือนนี้ เริ่มฟังออกหลายประโยคแล้ว
มันสนุกดี และจะช่วยให้คุณได้รู้จักกับประโยคภาษาอังกฤษสั้น ๆ เพิ่มขึ้นด้วย
รับรองว่าพอเริ่มฟังทันแล้ว ประโยคพวกนั้นจะติดหู และวนกลับมาบ่อยเวลาที่คุณเข้าห้องน้ำ นั่งเพลิน ๆ และช่วยให้คุณนึกออกเวลาต้องใช้พูดจริง
ยังไงลองเอาไปทำดูนะคะ รับรองว่าสนุก และก็มีประโยชน์มากเลยค่า
5. เลือกหนังฝรั่งที่เนื้อเรื่องไม่ยากมาก
ครั้งแรกที่เบญตัดสินใจกับตัวเองว่าอยากจะฝึกภาษาอังกฤษตอนดูหนัง เบญเลือก “Sherlock Holmes 🕵️” แบบไม่มีซัพด้วยค่ะ
ถ้าคุณอยู่ในวงการสืบสวนของเชอร์ล็อคจะรู้ว่า เค้าแร๊พได้เก่ง และเร็วมาก 🤣🤣
สุดท้ายแล้วเบญก็มานั่งกลุ้มว่าทำไมตัวเองฟังภาษาอังกฤษไม่ออกเลย และก็ไม่เข้าใจหนังเลยสักนิด เอาง่าย ๆ หรือฟังไม่ทันค่ะ
และเบญก็มานั่งคิดว่า จริง ๆ แล้วเบญเลือกหนังผิดเลเวลตัวเอง เบญไม่ชินกับสำเนียงอังกฤษ ในเรื่องนี้คำศัพท์ยาก ๆ ทั้งนั้น และพระเอกพูดเร็วมาก
เบญก็เลยลองเริ่มใหม่ ดูหนังเรื่องที่เนื้อเรื่องง่าย ๆ หนังการ์ตูน หนังเด็ก หนังครอบครัว และก็หนังวัยรุ่น (พร้อมซัพด้วยนะคะ) และเบญก็รู้ว่าจริง ๆ แล้ว ตัวเองก็ฟังออกในระดับนึงเลย ถ้าเลือกหนังที่เลเวลของเรา
อย่าทำพลาดเหมือนเบญ เลือกหนังเรื่องที่ยาก ๆ และมานั่งเศร้าว่าทำไมภาษาอังกฤษฉันแย่ขนาดนี้เลยนะ
แต่เลือกหนังให้ตรงกับเลเวลของเรา หรือถ้าไม่รู้ว่าเราอยู่เลเวลอะไร ก็แค่ลองจากเรื่องง่าย ๆ ก่อน ถ้าง่ายเกินไปก็ค่อยเพิ่มระดับเรื่องที่เนื้อเรื่องยากขึ้น และพูดเร็วขึ้นค่ะ
6. ดูหนังเรื่องเดิมซ้ำ ๆ
อย่างที่เบญพูดถึงการเปิดซัพไตเติ้ลภาษาอังกฤษตอนที่ดูหนัง ถ้าคุณดูหนังเรื่องนี้ไปครั้งแรกด้วยซัพไทย และครั้งที่สองด้วยซัพอังกฤษ ลองดูอีกครั้งแบบไม่มีซัพก็ได้ค่ะ
และสังเกตุดูว่าคุณฟังออกเพิ่มขึ้นมั้ย และเข้าใจประโยคนั้นมากขึ้นหรือเปล่า
ไม่ต้องกังวลว่าฉันดูหนังเรื่องนี้ 5 รอบแล้ว ฉันจะได้เรียนแต่คำศัพท์เดิม ๆ มั้ย
เบญบอกได้เลยว่า ทุกครั้งที่เราดูหนังเรื่องเดิม เราจะจับคำศัพท์ใหม่ ๆ เพิ่มได้เสมอ และได้ประโยคที่เราไม่รู้ว่าเลยอยู่ในเรื่องนี้ด้วยมาก่อนด้วยค่ะ
เพราะการฝึกฟังภาษาอังกฤษจริง ๆ แล้วคือการฟังซ้ำ ๆ จนเราเข้าใจและติดหูค่ะ
ถ้าคุณชอบหนังเรื่องนึงมาก และอยากดูซ้ำ ดูวน ก็ไม่ผิดเลยนะคะ แถมยังจะเข้าใจหนังเรื่องนี้เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่ดูเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย
7. เอาคำที่เราจดไว้ มาฝึกอ่าน ฝึกพูด
หลังจากที่รวบรวมคำศัพท์ และประโยคจากหนังหลาย ๆ เรื่องที่ดูแล้ว อย่าเก็บเข้ากุแล้วลืมมันไปเลยนะคะ
หาเวลา ใส่ลงตาราง ฝึกแต่งประโยคเองบ้าง ฝึกพูดออกเสียงคำศัพท์ให้ชัดเป๊ะ และก็ที่สำคัญอย่าลืมเอาไปใช้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ
ไม่ว่าจะคุยกับเพื่อน คุยกับตัวเอง หรือว่าคุยกับครูต่างชาติแบบตัวต่อตัว ทำยังไงก็ได้ให้คุณได้เอาสิ่งที่ได้เรียนมาจากหนังนั้นไปใช้จริง
จะได้ไม่ลืมสิ่งที่เรียนมา และเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองในการพูดคุยภาษาอังกฤษด้วยค่ะ
เรียนจากหนังมาแล้วลืม หรือวางไว้บนหิ้งให้ฝุ่นเกราะ ไม่เอานะคะ 555
8. เลือกสำเนียงภาษาอังกฤษที่อยากจะเก่ง
หลายครั้งเราฝึกฟังภาษาอังกฤษจากหนังหลายเรื่อง และก็มาจากหลายประเทศหลายสำเนียง จนทำให้เราจับใจความไม่ได้ว่าเราอยากจะพูดสำเนียงแบบไหน
ป.ล. ถ้าคุณอยากฟังออกทุกสำเนียง และอยากพูดได้ทุกสำเนียงก็ดูทุกเรื่องได้เลย
แต่ถ้าคุณมีสำเนียงในฝันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน หรือภาษาอังกฤษสำเนียงบริทิช เบญแนะนำให้เลือกดูหนังตามสำเนียงนั้น
และจะทำให้คุณฟังสำเนียงนั้นออก และพูดเหมือนสำเนียงนั้นได้เร็วขึ้นมากเลยค่ะ
9. ดูหนังให้สนุก และพูดคุยเกี่ยวกับหนัง
เครียดมากเกินไปอาจจะไม่ได้ส่งผลดีกับทั้งการดูหนัง และการเรียนภาษาอังกฤษในครั้งนี้นะคะ
พยายามสนุกไปกับการดูหนังด้วย เพราะอะไรก็ตามที่เราทำแล้วเราสนุก เราชอบ เราจะทำได้บ่อย ๆ โดยที่ไม่เหนื่อย และก็ไม่อยากหยุดทำมันค่ะ
คุณอาจจะเตรียมขนมกินไปด้วยระหว่างดูหนัง นั่งจดคำศัพท์นิดหน่อย หรือว่าชวนเพื่อนคนอื่นมาดูด้วยก็ได้ เพื่อน ๆ ก็จะได้ภาษาอังกฤษไปด้วยนะ มันเป็นไอเดียที่ดีเลยค่ะ
เริ่มคุยกันเกี่ยวกับหนังเป็นภาษาอังกฤษ โดยใช้ประโยคภาษาอังกฤษง่าย ๆ เช่น I like him. They are good friends. This house is beautiful.
แต่ไม่ว่ายังไง อย่าลืมสนใจหนัง และเนื้อเรื่องด้วยนะคะ จะได้ไม่เป็นเหมือนการเรียนมากจนเกินไป แทนที่จะสนุก ผ่อนคลาย กับเครียดเวอร์
10. ถ้าฟังไม่ออก อย่าเพิ่งถอดใจ
บางครั้งเบญเองก็ใจร้อนที่อยากจะฟังภาษาอังกฤษออกเร็ว ๆ และอยากพูดได้ชัดเป๊ะ ไหลลื่นเหมือนพวกตัวละครในหนัง
แต่ชีวิตจริงมันไม่เป็นแบบนั้นเลยค่ะ 🥺😞
การฟังภาษาอังกฤษ หรือการพูดภาษาอังกฤษ ต้องใช้เวลาเวลาการฝึก ดูหนังไปเรื่อย ๆ ฟังไปเรื่อย ๆ จนกว่าหูเราจะเริ่มชินสำเนียงเจ้าของภาษา เริ่มฟังออก และเริ่มพูดตามได้
ฉะนั้นถ้าคุณดูหนังฝรั่งไป 2 เรื่อง และสงสัยว่าทำไมฉันไม่เก่งภาษาอังกฤษสักทีล่ะ เบญขอบอกเลยว่าบางคนฝึกเป็นปี หลายปี ก็ยังไม่ได้เก่งที่สุด
เพราะภาษาเติบโตไปเรื่อย ๆ มีคำใหม่ ๆ เข้ามา มีคำแสลงภาษาอังกฤษเกิดขึ้นตลอดเวลา และเราก็เป็นนักเรียนที่กำลังเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ
ขนาดว่าเบญเรียนภาษาอังกฤษมา 5-6 ปีแล้ว ทุกวันนี้ดูหนังบท Netflix บางทีก็ฟังไม่ทัน ไม่รู้จักคำศัพท์นั้นบ่อยมากเลยค่ะ
และก็เป็นการซึมซับวัฒนธรรมด้วย เพราะบางครั้งสิ่งที่เค้าทำ หรือพูดเราอาจจะไม่เข้าใจเพราะเราไม่ทำ พูดแบบนั้นที่ไทย
เบญเข้าใจว่าบางครั้งเรารู้สึกท้อใจว่า เมื่อไหร่เราจะเก่งภาษาอังกฤษสักที แต่เชื่อเบญว่าคุณทำได้ และคุณก็กำลังทำอยู่จากการทำตามเคล็ดลับในโพสต์นี้
คุณกำลังเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ และไม่ได้เดินถอยหลังแน่นอนค่ะ 🙂
แนะนำ 4 เว็บดูหนังไว้เรียนภาษาอังกฤษ
จะบอกว่ามีหลายเว็บมากเลยที่คุณหาได้จากออนไลน์ แต่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะว่าถ้าคุณมี 4 เว็บนี้ คุณก็ไม่ต้องเสียเวลาไปหาเว็บอื่นอีกเลยค่ะ
และ 4 เว็บที่เบญเลือกมาฝาก มีซัพอังกฤษให้ด้วยนะคะ 😉
1. Netflix
ช่องหนังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก เพราะมีหนังมากกว่า 3,600 เรื่อง และมากกว่า 1800 ทีวีโชว์ ให้เลือกดูกันอย่างจุใจเลยค่ะ และที่สำคัญมีซัพไทย-อังกฤษให้เลือกด้วย

หนังที่เหมาะกับคนที่เพิ่งฝึกฟัง เบญขอแนะนำพวกการ์ตูน และก็หนังวัยรุ่น เช่น ซีรีย์ Riverdale, The good place และก็อีกหลาย ๆ เรื่องที่ห้ามพลาด
2. YouTube
ช่องนี้ทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากเข้าไปดูคนนั่งกินข้าวโชว์แล้ว อย่าลืมเข้าไปหาช่องต่างชาติที่ตัวเองชอบ และก็ฝึกภาษาอังกฤษด้วยได้เลย

ส่วนตัวแล้วเบญชอบดูช่องเล่นเกม The Sims (Kelsey), ช่องทำอาหาร (Tasty), ช่องลองเสื้อผ้า (HopeScope) และก็มีอีกหลาย ๆ ช่องเลยค่ะที่เบญชอบดูประจำ
3. FluentU
หนึ่งในอีกหลายช่องทางที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จัก แต่เบญเคยลองใช้แล้ว สนุกดี และก็ได้เรียนคำศัพท์ แะลประโยคจากการดูวีดีโอในเว็บนี้มาเพิ่มเยอะมากเลยค่ะ

เว็บนี้จะมีวีดีโอจาก YouTube มาทำซัพอังกฤษให้กับเราได้เรียนเป็นคำ ๆ และเข้าใจมากขึ้น เช่น ตัวอย่างหนัง เพลง หรือว่าวีดีโออื่น ๆ เข้าไปทดลองใช้ฟรีได้เลยจ้า
4. EnglishClass101
อีกหนึ่งในเว็บโปรดของเบญ ที่ชอบเข้าไปดูวีดีโอจำลองบทสนทนาภาษาอังกฤษ จากสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ที่ร้านกาแฟ ที่ร้านอาหาร แนะนำตัวภาษาอังกฤษ

ยังไม่จบแค่นั้นนะคะ หลังจากลงทะเบียนและอัพเกรดแล้ว เค้าจะแยกคำศัพท์ และประโยคออกให้ ทำให้เราได้ฝึกพูดตาม และก็ฟังหลังจากดูวีดีโอด้วยค่ะ