ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน เป็นอีกสำเนียงนึงที่เบญก็เรียนมาทั้งด้วยตัวเอง และมีครูสอน เป็นสำเนียงที่พูดแล้วสนุกดีด้วยค่ะ

ถ้าคุณอยากพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันได้เหมือนเจ้าของภาษา และฟังเจ้าของภาษาออก ต้องลองทำ 7 สิ่งข้างล่างนี้ที่เบญเอามางากด้วยค่ะ

เพราะว่าเบญลองทำด้วยตัวเองแล้ว มันเวิร์คมาก!!

1. ฝึกพูด-ฟังกับครูชาวอเมริกันแท้ ๆ

เชื่อได้เลยว่า วิธีนี้เองคงเป็นวิธีนึงที่คุณเองก็พอจะเดาได้ว่าจะต้องอยู่ในโพสต์นี้ใช่มั้ยคะ

แต่เบญจะขอบอกเลยว่า มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดจริง ๆ และเป็นวิธีที่เบญลองแล้วได้ผลเกินคาดมากที่สุด และไม่อยากให้คุณพลาดจริง ๆ

ตอนนี้คุณอาจจะสงสัยแล้วว่า และฉันจะไปชาครูชาวอเมริกันได้จากที่ไหน?

ไม่ต้องห่วงเลยนะคะ เบญมีเว็บโปรดในดวงใจ ที่เป็นหนึ่งในเว็บหาครูต่างชาติเรียนแบบตัวต่อตัวออนไลน์ที่เบญเคยรู้จักมาในชีวิต และดีมาก ๆ เลยก็คือ…

👉 iTalki

เพราะว่าที่เว็บนี้มีครูหลายสัญชาติทั่วโลกให้เลือกเรียนด้วย รวมทั้งครูอเมริกันแท้ ๆ ที่ไม่ว่าเค้าจะอยู่ที่อเมริกา หรือประเทศอื่น ๆ เค้าก็สอนภาษาอังกฤษให้คุณได้

มันคงไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่าการได้ฝึกพูดกับเจ้าของภาษาแท้ ๆ อีกแล้วใช่มั้ยคะ และบอกได้เลยว่า ครูใจดี และอดทนกับเรามาก

ไม่ว่าคุณจะไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อน พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย หรือยังพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทยอยู่

แค่บอกกับครูว่า เราอยากเน้นไปที่การออกเสียง (pronunciation) และสำเนียง (accent) คุณครูเค้าก็จะเตรียมบทเรียนมาเพื่อให้เราฝึกสิ่งนั้นโดยเฉพาะ

รับรองว่าแค่ได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูอเมริกันแค่อาทิตย์ละ 1-2 ชม. คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของสำเสียงตัวเองอย่างแน่นอนค่า!

การฝึกฟังจากครูอเมริกันบ่อย ๆ จะทำให้หูของเราค่อย ๆ พัฒนา และชินกับสำเนียงของเค้าไปด้วย

แรก ๆ คุณอาจจะรู้สึกว่าฟังอะไรไม่ออกเลย ไม่รู้ว่าคุณครูพูดอะไร นั่นเป็นเรื่องปกตินะคะ ไม่ต้องกังวลไป เพราะว่าถ้าคุณตั้งใจ และฝึกฟังกับครูอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้คุณค่อย ๆ ฟังออก

และอีกพักนึงก็จะเริ่มฟังออกแบบอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องไปคิดนาน ๆ ในหัวเลยค่า

2. ลงท้ายด้วยตัว r สำคัญมาก ออกเสียงให้ชัดเป๊ะ

นี่เป็นสิ่งที่เบญเพิ่งจะรู้ แต่สังเกตด้วยตัวเอง 2-3 ปีหลังเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ว่ามันสำคัญขนาดไหนในการพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน

เพราะว่าคนไทย ไม่มีคำลงท้ายด้วย ร (มีค่ะ แต่เราไม่ออกเสียงใช่มั้ย เช่น สมุทร สาทร) เลยทำให้เวลาเราพูดภาษษาอังกฤษ เราก็เลยตัดตัวลงท้ายออกไปด้วย

จริง ๆ แล้วภาษาอังกฤษสำเนียงบริทิช ไม่ต้องออกเสียง r ค่ะ แต่สำเนียงอเมริกันจำเป็นมาก ๆ

และตัว r ของภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ออกเสียงเหมือน ร ของไทยด้วย เพราะฉะนั้นลบเสียง ร กระดกลิ้นของเราออกไปได้เลยนะคะ เพราะตัว r จะเป็นการห่อลิ้นห่อปากค่ะ เช่น…

มีหลายคำมากค่ะในภาษาอังกฤษที่ลงท้ายด้วย er, ur, ir, or และก็ ar และมันสำคัญมากที่เราจะต้องออกเสียงตัวนั้น เช่นคำว่า burger, car, door, her, shirt เป็นต้นค่ะ

เท็คนิคง่าย ๆ ก็คือ ดูวีดีโอที่สอนออกเสียง r เหมือนอย่างของอาจารย์อดัมข้างบนนี้เลย สังเกตุที่ปาก และลิ้นของเค้า ลองทำตาม และฝึกไปเรื่อย ๆ ค่ะ

รับรองว่าพอคุณเริ่มออกเสียง r ได้แล้ว คุณจะฟังดูเหมือนคนอเมรกันทันที

ป.ล. ทำลงท้ายตัวอื่นก็สำคัญนะ ถ้าอยากออกเสียงตัวอื่นให้ชัดด้วย เข้าไปอ่านเคล็ดลับออกเสียงภาษาอังกฤษชัดเป๊ะเหมือนเจ้าของภาษาได้เลยค่ะ

3. เรียนประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

บางครั้ง อยากฝึกพูด แต่ก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาพูดใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นสำคัญมากที่คุณจะรู้จักประโยคภาษาอังกฤษเยอะหน่อย เพื่อที่จะเอามาไว้ฝึกพูด

แต่เบญไม่แนะนำให้ไปสุ่มหาประโยคภาษาอังกฤษอะไรก็ได้มาพูด แต่เป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้จริงในชีวิตประจำวันจะดีที่สุด

เพราะเรารู้ว่า เราจะได้ใช้มันอย่างแน่นอนในวันนึง และจะได้ไม่เสียเวลาเปล่า หรือเปลืองพื้นที่ในสมองเปล่า ๆ ที่จะไปจำประโยคที่ไม่น่าจะได้ใช้จริง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคที่เป็นการโต้ตอบ สนทนาจริง ๆ ทำให้เรารู้ว่าต้องถามยังไง และต้องตอบยังไง เช่น

● ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร

● ประโยคคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ

● บทสนทนาภาษาอังกฤษในโรงแรม

● รวมประโยคภาษาอังกฤษใช้บ่อย

หรือว่าหลาย ๆ ครั้ง เบญเองอยากรู้จักประโยคภาษาอังกฤษอเมริกันในหัวข้ออื่น ๆ เช่น พูดภาษาอังกฤษในร้านกาฟ พูดภาษาอังกฤษในที่ทำงาน

เบญก็จะเข้าไปเรียนเพิ่มที่ EnglishClass101 ค่ะ

บอกเลยว่า เค้ามีแยกเป็นสำเนียงให้เราเลือกเรียนด้วย แปลว่าเวลาเราเรียนประโยคมา เราก็จะรู้ว่าเป็นประโยคที่คนอเมริกันใช้กันจริง ๆ

4. เติมคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤอเมริกัน

อย่างที่เบญได้บอกไปข้างบนแล้วว่า การออกเสียงภาษาอังกฤษนั้นสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นในสำเนียงไหนก็ตาม

ไม่งั้นคุณจะใช้เวลาเรียนภาษาอังกฤษ 10-20 ปี แต่พอเอาไปพูดจริง ฝรั่งก็ฟังไม่ออก ไม่ใช่ว่าใช้คำศัพท์ผิด หรือพูดผิดค่ะ แต่หลัก ๆ แล้วจะเป็นการที่เราออกเสียงผิดนี่แหละ

มีหลายวิธีเลยที่คุณจะฝึกออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น ปริ้น Flashcards มาท่องเอง หรือไปหาฟังคำศัพท์ใน Google

แต่วิธีที่ง่าย และเห็นผลจริงมากที่สุดที่เบญเคยทำก็คือ เข้าไปใน EnglishClass101 และเลือกที่ Vocabulary เค้าจะมีคำศัพท์มากมายให้เราเลือกฝึก

ที่อเมซิ่งกว่านั้นก็คือ เราฟังก่อนได้ด้วย ว่าคำนี้ในสำเนียงอเมริกันออกเสียงยังไง และเราก็ฝึกออกเสียงตามได้เลยค่ะ

รับรองว่าไม่เงิบ เพราะว่าเรารู้ว่าเราฝึกออกเสียงคำศัพท์ตามเจ้าของภาษา 😎

5. ฟัง และบันทึกเสียงตัวเองพูดตาม

ใครที่ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ต้องลองเลยนะคะ!

ไม่ว่าคุณจะอ่านเรื่องภาษาอังกฤษสั้น ๆ ออนไลน์ หรือว่าอ่านนิทานภาษาอังกฤษง่าย ๆ หรือว่าแค่ลองคุยกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ หรืออ่าน Freewriting ของตัวเอง

ลองใช้โทรศัพท์บันทึกเสียง และเอากลับมาฟังดูค่ะ 🎧😉

มันอาจจะฟังดูตลกในตอนแรก ไม่มีใครชอบฟังเสียงตัวเองหรอกค่ะ เบญเข้าใจมาก ๆ แต่พอเราได้ฟังจริง ๆ เราจะรู้เลยว่าการออกเสียงภาษาอังกฤษ การพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันของเราเป็นยังไง

และเราควรจะแก้ไขตรงไหนบ้าง หรือว่าฝึกเพิ่มตรงไหน

ลองดูนะคะ แล้วจะบอกว่า มันช่วยให้เราเห็นปัญหาของตัวเองมากขึ้น แถมเราจะได้กำลังใจจากการฟังไปเรื่อย ๆ และรู้ว่าตัวเองกำลังพัฒนาขึ้นด้วยค่ะ

หรือวิธีที่ง่ายกว่านั้นก็มีค่ะ แค่คุณลงทะเบียนกับ EnglisClass101 คุณก็จะฟังคำศัพท์ และประโยคภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันได้จากในนั้นครบ

แถมเค้ายังมีแบบฝึกหัด ให้เราฟังเป็นท่อน ๆ คำ ๆ และฝึกออกเสียงตามด้วยค่ะ หลังจากนั้นเค้าก็จะบอกว่าเราพูดได้เหมือนขนาดไหน แถมฟังเสียงตัวเองได้ด้วยนะคะ

แรก ๆ เบญก็ออกเสียงตามหลายรอบอยู่ แต่อย่าถอดใจค่ะ สุดท้ายก็เหมือนน๊า

6. ดูหนังเป็นภาษาอังกฤษ + เปิดซัพด้วย

ถ้าวันว่าง ๆ ของคุณชอบดูหนังบน Netflix หรือว่า ดูวีดีโอบน YoutTube คุณเองก็กำลังฝึกฟังภาษาอังกฤษเข้าอย่างเต็ม ๆ เลยค่ะ (ถ้าดูเป็นภาษาอังกฤษนะ)

แต่สิ่งที่เบญอยากจะแนะนำเพิ่มเติมก็คือ หาหนังหรือช่องที่เป็นสำเนียงอเมริกัน และเปิดซัพภาษาอังกฤษด้วยเวลาดู

คุณอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมไม่เปิดซัพไทย? จะเข้าใจได้ไง?

เพราะว่าเราไม่ได้อยากเอาความเข้าใจไงคะ เราอยากได้สำเนียงของเค้า การที่เราฟังเค้าพูด ซึมซับสำเนียง แถมรู้ด้วยว่าเค้าพูดคำว่าอะไรจากซัพ จะยิ่งทำให้เราฟังออกได้เยอะมากขึ้นเลย

โดยที่เบญจะแนะนำให้เริ่มจากการ์ตูนก่อน หรือว่าหนังเด็ก ที่คำศัพท์ และประโยคยังไม่ยากมาก เช่น

แล้วหลังจากนั้นค่อยเพิ่มความยากขึ้น ซีรีย์ที่เบญชอบและอยากแนะนำก็คือ Riverdale, Wednesday และก็ Breaking Bad

เบญได้รวบรวมหนัง/ซีรีย์ Netflix ที่ช่วยฝึกสำเนียงอเมริกันไว้ให้แล้ว เข้าไปดูได้เลย!

7. เจอเพื่อนใหม่ เข้าร่วมกลุ่ม Meetup

ไม่รู้ว่าคุณเคยรู้จักเว็บนี้มั้ย ที่จะมีคนสร้าง event ที่น่าสนใจ เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกม เที่ยว กินตามร้านต่าง ๆ และเปิดในคนอื่นเข้ามาร่วมด้วย

เป็นเหมือนการนัดเจอกับเพื่อนใหม่ ๆ รู้จักคนใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ หรือแบบหน้าต่อหน้าก็มีค่ะ

เว็บนี้ชื่อ Meetup ลงทะเบียนได้ฟรี แต่ค่ากิจกรรมที่ไปทำของแต่ละกลุ่มนั้นจะแล้วแต่คนตั้งกลุ่ม

พอเราใส่สิ่งที่เราสนใจเข้าไป และใส่ที่อยู่ของเรา ก็จะมีกลุ่มเยอะแยะมากมายมาให้เราได้เข้าร่วมเลยค่ะ อย่างเช่น เบญใส่คำว่า language และสถานที่ Bangkok ก็จะเจอกับ..

เป็นกลุ่มที่เน้นเรื่องภาษาโดยเฉพาะ อาจจะไม่ได้สอนภาษาอังกฤษให้เรา แต่ว่าเราจะได้เข้าไปแลกเปลี่ยนภาษากับชาวต่างชาติ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกับเรา

เบญรู้สึกว่ามันปลอดภัยด้วยค่ะ เพราะเป็นงานกลางวัน และก็จัดในที่สาธารณะ เช่น ร้านอาหาร หรือว่าห้าง ทำให้เราได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ และได้ลองใช้ภาษาอังกฤษที่เราเรียนมา

เมื่อเราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในแวดล้อมของคนที่พูดภาษาอังกฤษ เราจะได้ซึมซับทั้งการพูด และการฟังกลับมาเยอะมาก แถมได้เจอเพื่อนใหม่อีกด้วย

ยังไงไปลองหากลุ่มที่ตัวเองชอบดูนะคะ และหวังว่าคุณจะลองเอา 7 สิ่งที่เบญแนะนำไปข้างบนนี้ไปลองทำดูจริง ๆ และเห็นความแตกต่างของภาษาอังกฤษอเมริกันของตัวเองเร็ว ๆ นี้

มีคำถามอะไร หรือว่ามีเคล็ดลับอะไรดี ๆ ที่คุณทำแล้วผล ก็มาแบ่งปันกันในคอมเม้นข้างล่างนี้นะคะ