5 สิ่งที่คนไทยชอบทำผิดในการเรียนภาษาอังกฤษ 🤫 พร้อมวิธีแก้

By

ในโลกนี้ ไม่ใช่ทุกสิ่งที่ทุกคนพูด หรือทำมาตลอดจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำตาม ถ้าเราทำแบบนั้นมานาน แต่ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงสักที ก็แปลว่ามันไม่เวิร์คค่ะ

การเก่งภาษาอังกฤษก็เช่นกัน

วันนี้เบญเอาสิ่งที่เคยได้ยินมาบ่อยมาก ๆ จากคนไทย มาฝากกัน และจะบอกว่ามันเป็นสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากใช้เวลาอีก 10 ปีข้างหน้านี้ทำสิ่งเดิม ๆ แต่ก็ไม่คืบหน้าในเรื่องภาษาอังกฤษสักที

และที่สำคัญที่สุด เบญมีวิธีที่ใช้ได้จริงมาแทนที่ให้ด้วยค่ะ รับรองว่าถ้าคุณทำตามแล้ว จะช่วยให้คุณเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในภาษาอังกฤษของคุณแน่นอน!

❌ เน้นเรียนแกรมม่า จำได้ = พูดถูก

เน้นเรียนประโยคสนทนาทั่วไป พูดเป๊ะแน่นอน

เบญเชื่อว่าที่โรงเรียนที่เราเรียนมาตั้งแต่เด็กจนโตก็บอกกับเราแบบนี้ และพอเราโตขึ้น ไปเรียนที่โรงเรียนสอนภาษา หลายที่ก็ยังบอกแบบนี้และสอนแบบนี้อยู่ค่ะ

และไม่ต้องบอกก็ดูออกเลยว่า การเรียนแต่แกรมม่าไม่ได้ทำให้เราพูด หรือเก่งภาษาอังกฤษได้จริง เพราะว่าลองดูสิคะว่ามีกี่คนที่เรียน 15 ปี มาจากโรงเรียน และเรียนอีก 3 ปีที่โรงเรียนสอนภาษา แต่ก็ยังพูดไม่ได้ซะที ก็เพราะว่า…

1. แกรมม่ามีตั้งกี่แบบ มัวแต่นั่งจำ เวลาเอาไปพูดจริงก็นึกไม่ออกสักข้อ

2. บางประโยคที่เจ้าของภาษาใช้พูดจริง อาจจะไม่ตามหลักแกรมม่าที่เราเรียนมาด้วยซ้ำ

3. ฝรั่งฟังเราไม่ออก เพราะเราพูดเหมือนหุ่นยนต์ เสียเวลาทั้งหมดของเราไปกับการท่องจำ จนไม่มีเวลาไปฝึกการออกเสียงให้เหมือนสำเนียงเจ้าของภาษา

ยังไปต่อได้อีกหลายข้อเลยค่ะ แต่คิดว่าคุณน่าจะเข้าใจในสิ่งที่เบญพยายามจะพูด

จะบอกเลยว่าเบญเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นที่รักทิชเช่อมาก และเรียนแกรมม่าอย่างที่ทิชเช่อแนะนำ แต่มันไม่ได้ผลเลย และคุณเองก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แต่เราจะไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไปค่า!

เพราะข่าวดีก็คือ เบญเองได้รวบรวมคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ไว้ให้คุณได้เลือกคอร์สที่คุณชอบมากที่สุด และเป็นคอร์สที่เน้นการสนทนาภาษาอังกฤษ นั่นก็แปลว่า…

1. คุณจะได้ฝึกพูด-ฟังประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

2. คุณจะรู้จักคำถาม และรู้ว่าต้องตอบยังไงถ้าอยากจะให้การสนทนาไปต่อได้ นอกจากแค่ Hello และเดินจากไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

3. แกรมม่าของคุณจะเป๊ะเองโดยที่คุณไม่ต้องนั่งท่องรูปแบบด้วยซ้ำ เพราะคุณจะรู้ทันทีว่าประโยคนี้ควรจะเริ่ม ตาม และจบด้วยคำว่าอะไรแบบอัตโนมัติ

และเช่นเคยค่ะ อีกหลายเหตุผลที่บอกวันนี้ก็คงไม่หมด 😉

ตัวอย่างเช่น คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ Mondly เป็นหนึ่งในคอร์สที่เบญชอบมากที่สุด และก็มีติดเครื่องไว้ฝึกภาษาอังกฤษในมือถือค่ะ

รีวิว แอพเรียนภาษา Mondly

คอร์สนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าการตอบคำถามภาษาอังกฤษไม่ได้มีแค่ประโยคเดียวเท่านั้น แต่มีอีกเยอะเลย และที่สำคัญมีคำแปลภาษาไทยให้เราด้วยนะคะ

ถ้าสนใจคอร์สนี้เข้าไปอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้เลย หรือว่าถ้ายังไม่แน่ใจมีอีกหลายคอร์สเลยค่ะที่เบญอยากแนะนำ เข้าไปเลือกจากปุ่มข้างล่างนี้ก็ได้จ้า

รับรองเลยว่า แค่มีคอร์สเรียนดี ๆ แบบที่เบญแนะนำให้ คุณเองก็จะเริ่มพูดภาษาอังกฤษถูกตามหลักไวยากรณ์โดยที่ไม่ต้องนั่งท่อง หรือว่าเสียเวลาไปกับการโฟกัสแค่เรื่องนี้ค่ะ

❌ ท่องจำตามบทเรียน รับรองไม่ลืม

ฝึกพูดจริงเป็นประจำ เวลาพูดจริงจะลื่นไหล

หลายคนเชื่อว่า ยิ่งเรียนภาษาอังกฤษเยอะ จะยิ่งเก่ง แต่ในความจริง การเรียนภาษาไม่ได้ง่ายขนาดนั้นค่ะ ยกเว้นคุณแค่เรียนเอาไปไว้สอบเฉย ๆ ไม่ได้จะใช้คุยกับคนอื่นจริง ๆ

การที่เราเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนวันละ 3-5 ชม. หรือว่าจำหนังสือเรียนภาษาอังกฤษได้ทั้งเล่ม ไม่ได้หมายความว่าเราจะกล้าพูดเวลาเจอฝรั่งหน้าต่อหน้า

เบญขอแนะนำให้คุณฝึกพูด-ฟังภาษาอังกฤษทุกวัน และจะบอกให้เลยนะคะว่า ต่อให้คุณไม่มีเพื่อนฝึก คุณเองก็ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับตัวเองได้

หรือว่าถ้าสนใจอยากฝึกพูดภาษากับคุณครูเจ้าของภาษาแบบตัวต่อตัวออนไลน์ในราคาไม่แพง เบญแนะนำคอร์สโปรดของเบญคือ iTalki ค่ะ

iTalki

บอกได้อย่างภาคภูมิใจเลยว่า การที่ได้ฝึกพูด หรือแค่เจอหน้าเจ้าของภาษาผ่านออนไลน์ อาทิตย์ละ 1 ชม. ทำให้เบญมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะพูดภาษาอังกฤษกับฝรั่งค่ะ

ถ้าสนใจลองเข้าไปเลือกคุณครูได้เองเลย หรือว่าจะดูรีวิว และคำถามที่คุณควรจะเตรียมตัวไว้ก่อนเข้าไปทดลองเรียนตามวีดีโอข้างล่างได้เลยนะคะ

YouTube video

ของดีต้องบอกต่อจริง ๆ!!

❌ ภูมิใจในสำเนียงไทยเข้าไว้ อย่ากระแดะ

เลียนแบบสำเนียงเจ้าของภาษา มั่นใจเข้าไว้

ความจริงที่โหดร้ายก็คือ… ไม่ใช่แค่รู้จักคำศัพท์ก็พูดเก่งได้ 🙅

ถ้าคุณลองตั้งใจฟังดี ๆ คนที่ขี้อาย และกลัวว่าคนอื่นจะด่าว่าตัวเองกระเดะที่พยายามพูดเหมือนเจ้าของภาษา มักจะพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงไทยค่ะ

แปลว่า… ไม่ออกเสียงตัว s, r, l, t และตัวอื่น ๆ ที่ควรจะออก

ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ารู้อยู่แล้วแต่ไม่อยากออก หรือว่าอาจจะไม่รู้เลยก็ได้

แต่ในภาษาอังกฤษจะมีตัวสะกดตัวท้าย หรือตัวเริ่มต้นที่คุณจำเป็นต้องออกเสียง เพราะถ้าไม่ออกนั้น คนที่ฟังจะต้องเดาเอาเองว่าคุณพยายามจะพูดว่าอะไร หรือถ้าออกเสียงผิดมันก็จะกลายเป็นคำอื่นไปเลย เช่น

tea, tree, three ลองออกเสียง 3 ตัวนี้ดูสิคะ ถ้ามันออกมาเป็นเสียงเดียวกันหมดเลยคือ ที ที ที แปลว่าคุณออกเสียงผิดค่ะ แต่ความหมายก็จะเปลี่ยนทันที

และบางครั้งต่อให้เบญเขียภาษาคาราโอเกะให้ว่า tree = ทรี three = ซรี คุณก็ยังงงอยู่ใช่มั้ยคะ เพราะว่าในภาษาไทยเราไม่มีตัว th ค่ะ เหมือนในภาษาอังกฤษไม่มีตัว ป ทำให้คนที่พยายามเทียบเสียงกัน ออกเสียงไม่ถูกจริง ๆ

YouTube video

เบญเลยอยากจะแนะนำให้คุณเข้าไปหาคลิปการออกเสียงภาษาอังกฤษแบบเจ้าของภาษาดู และฝึกออกเสียงตามตั้งแต่ตัว A-Z ลบเสียงเก่า ๆ ที่เคยเรียนมาให้หมด และเริ่มใหม่

ลองทำดูนะคะ และเบญเชื่อว่าคุณจะได้เริ่มเห็นความแตกต่างแน่นอน

เชิดใส่คนที่บอกว่าคุณกระแดะไปเลยค่ะ เพราะ มันน่าอายมากกว่าที่คุณพูดเป็น 20-30 รอบแล้ว แต่ฝรั่งก็ยังไม่เก็ท 🙄

❌ เรียนมั่ว ๆ ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเก่งเอง

จัดตารางที่ทำได้จริง เรียนตามแผนเรียน

เห็นหลายคนเลยที่ไม่มีที่เรียนเป็นหลักเป็นแหล่ง เข้ากลุ่มสอนภาษาอังกฤษในเฟซบุ๊ค 20 กว่ากลุ่ม หาใบงานฟรีในกูเกิ้ล แถมซื้อหนังสือมาเรียนเองหลายสิบเล่ม

แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษสักที ทำอะไรผิดหรือเปล่านะ??

จริงอยู่ที่บางครั้งคอร์สเรียนฟรี ๆ ในเน็ตก็มีประโยชน์กับเรา แต่ถ้าคุณเริ่มตั้งใจ และอยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงจริง ๆ เบญไม่แนะนำให้ทำแบบนั้นนะคะ

เพราะว่าคุณไม่ได้บันทึกเลยว่า เรียนอะไรไปบ้างแล้ว หรือว่าตัวเองพัฒนาขึ้นยังไงบ้าง และก็อาจจะมัวแต่ไปเรียนเรื่องที่ไม่จำเป็น รู้ตัวอีกทีก็เสียเวลาไปเป็นปีแล้ว

ถ้าสิ่งที่เบญพูดมาคือคุณล่ะก็… ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงบทเรียนของตัวเองแล้วค่ะ

หาบทเรียนที่คุณทำตามได้ง่าย แต่มีระบบให้คุณรู้ว่าวันนี้ฉันเรียนอะไรไป อย่าเช่นคอร์ส Eng Breaking ที่เบญเอามาให้ดูข้างล่างนี้

รีวิว Eng Breaking Plus

นอกจากที่จะมีสมุดให้คุณได้เช็คลิสต์ในสิ่งที่ตัวเองต้องทำในแต่ละวันแล้ว ก็ยังมีแอพให้คุณได้ฝึกภาษาเพิ่มและช่วยให้คุณรู้ด้วยว่าคุณพัฒนาไปถึงขนาดไหนแล้ว

Eng Breaking Ulti Practice

มีอีกหลายอย่างเลยที่คุณจะได้จากคอร์สนี้ ลองเข้าไปอ่านรีวิวที่เบญพลีชีพซื้อคอร์สนี้มาลองเรียนด้วยตัวเองได้เลยค่ะ

เห็นมั้ยคะ ไม่ต้องไปนั่งรวบรวมบทเรียนเองเลย แค่แบ่งเวลาเรียน 20-30 นาทีต่อวัน คุณเองก็เริ่มเก่งภาษาอังกฤษได้แบบจริง ๆ โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินหลายทอดอีกด้วย

❌ ไว้หาเวลาว่างได้ แล้วค่อยเริ่มเรียน

แบ่งเวลาเรียนเลย ไม่ต้องรอให้ทุกอย่างพร้อม

เคยได้ยินมั้ยคะว่า “Live like there's no tomorrow ใช้ชีวิตเหมือนจะไม่มีวันพรุ่งนี้”

การเรียนภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกันค่ะ ถ้าเรารู้ว่าไม่มีพรุ่งนี้ให้เรารอแล้ว เราก็ต้องทำมันวันนี้เลยใช่มั้ยคะ

แต่เบญก็เข้าใจว่าหลายคนทำงานประจำ ทำงานพาร์ททาม เลี้ยงลูก เรียนหนังสือ ทำงานบ้าน และอีกหลายพันอย่างที่ต้องใน 1 วัน และรู้สึกกว่าตัวเองไม่มีเวลาจริง ๆ

จริง ๆ แล้วมีหลายวิธีเลยที่จะช่วยให้คุณเก่งภาษาแม้ว่าจะมีเวลาน้อย หรือแทบจะไม่มีเวลามานั่งเรียนภาษาเลยก็ตาม

เบญได้เขียนเคล็ดลับไว้ให้เยอะแล้ว ไม่ว่าจะใช้คอร์สเรียนที่แค่เรียนวันละ 5 นาทีเท่านั้น หรือว่าฝึกภาษาอังกฤษบนมือถือเวลานั่งรอรถ หรือพักเบรก

สุดท้ายแล้ว มันก็จะวนกลับมาที่ เราเองอยากเก่งภาษาอังกฤษจริงหรือเปล่า เพราะถ้าจริง เราจะพยายามจัดตารางชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด

ถ้าคุณลองสังเกตุดูแล้ว วันนึงเรานั่งดูหนัง อ่านโพสต์คนอื่นบนเฟซ ไลค์รูปบนอินสตาแกรม และก็เล่นเกมบนมือถือวันละตั้งกี่นาที ทำไมเราจะไม่มีเวลาให้การเรียนภาษาเลย

คิดดูดี ๆ และที่สำคัญเริ่มเลยค่ะวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นหาคอร์สเรียนที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด แบ่งจัดตารางไว้เรียน หรือว่าเขียนเป้าหมายว่าจะเริ่มเก่งภาษาอังกฤษได้ยังไง

แค่เริ่มทำอะไรสักอย่าง คุณก็กำลังก้าวไปข้างหน้า และเข้าไปใกล้กับความฝันที่อยากเก่งภาษาของคุณแล้วค่ะ

ยังไงเบญจะขอเป็นกำลังใจให้นะคะ และถ้ามีความเชื่ออะไรผิด ๆ อีกเกี่ยวกับสิ่งที่คนไทยทำแล้วไม่ได้ช่วยให้เก่งภาษานอกจากนี้ มาคอมเม้นกันไว้ด้วยน๊า จะรออ่านค่ะ ☺️

เลือกการแจ้งเตือน *สำคัญมาก
แจ้งเตือน
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
ดูคอมเม้นทั้งหมด

ปลดล็อค ความมั่นใจ ในภาษาอังกฤษของคุณด้วย Survival English Course เพิ่งเริ่มเรียน ก็เก่งได้

เรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้

เรียนกับเจ้าของภาษา

บทเรียนวิดีโอสนุก เข้าใจง่าย

ถูกกว่าโรงเรียน 99%