หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า เราควรจะแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษยังไงดี เริ่มจากอะไร และควรพูดทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองเหมือนที่เราเคยนั่งท่องสมัยเด็ก ๆ ที่โรงเรียนดีมั้ย
หรือว่าเราควรทำท่าทางแบบไหนในขณะที่เรากำลังแนะนำตัว หรือพูดคุยกับคู่สนทนา
ประโยคแนะนำตัวภาษาอังกฤษวันนี้ ยังสามารถเอาไปใช้ในการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษได้อีกด้วยนะคะ
เบญได้รวบรวมคำตอบ และคำแนะนำมาให้คุณได้อ่านและเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันแล้วค่ะ
เบญจะแบ่งออกเป็นหมวด ๆ ให้ได้ลองดูว่าสามารถถามและตอบอะไรได้บ้างในการแนะนำตัวภาษาอังกฤษนะคะ
ที่เบญไม่พิมพ์เป็นเหมือนการเรียงความแบบยาว ๆ เพราะเบญเชื่อว่า การที่เราแนะนำตัว ก็เป็นเหมือนกับการสนทนาภาษาอังกฤษทั่วไปค่ะ
ซึ่งมีการถามและการตอบ ไม่ใช่ว่าเราพูดอยู่คนเดียว หรือว่าฟังอย่างเดียว แต่อามารวมกันเป็นประโยคยาว ๆ ตามชอบได้เลยจ้า
เริ่มพูดเก่งภาษาอังกฤษวันนี้!

เรียนกับเว็บที่รวมครูสอนภาษาจากทั่วโลก ให้เราได้เลือกครูที่ชอบเอง เลือกได้ทั้งแบบตัวต่อตัว และกลุ่ม ได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาทั้งชั่วโมง
1. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: ชื่อ
ประโยคคำถาม:
- What’s your name? วอทสฺ ยอรฺ เนม ชื่ออะไรหรอ
ประโยคคำตอบ:
- My name's… มาย เนมสฺ ฉันชื่อ… (จะบอกชื่อจริง หรือชื่อเล่นก็ได้)
- I’m… ไอมฺ ฉันคือ…
- My full name is… มาย ฟูลฺ เนม อิสฺ ชื่อเต็ม ๆ ของฉันคือ… (บอกชื่อ-นามสกุล)
- My first name is… มาย เฟิสฺทฺ เนม อิสฺ ชื่อจริงขอฉันคือ…
- My last name is… ลาสทฺ เนม อิสฺ นามสกุล ของฉันคือ…
ถ้าเราอยากจะบอกชื่อเล่นให้กับคู่สนทนาของเรา เพื่อทำให้รู้สึกคุ้นเคย และเป็นกันเองมากขึ้น
อาจจะเริ่มจากการบอกชื่อจริง โดยใช้ประโยคคำตอบจากข้างบน และตามด้วยประโยคบอกชื่อเล่นข้างล่างนี้ก็ได้
โดยประโยคที่บอกว่า ชื่อเล่นของฉันคือนั้น ก็มีอยู่หลายประโยคให้ เลือกใช้ค่ะ โดยความหมายรวม ๆ ก็จะเป็น ชื่อเล่นของฉันคือ.. หรือคุณเรียกฉันว่า… ก็ได้ เช่น
- My nickname's… มาย นิคเนมสฺ
- You can call me… ยู แคน คอลฺ มี
- They call me… เด คอลฺ มี
- Please call me… พลีสฺ คอลฺ มี
- Everyone calls me… เอฟวรีวัน คอลสฺ มี...
ตัวอย่างบทสนทนา:
A: Hi. What's your name?
B: Hi! I'm Benjawan or you can just call me Ben. What's your name?
2. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: มาจากไหน
ประโยคนี้เราอาจจะได้ใช้บ่อย ถ้าเกิดว่าเราอยู่ต่างประเทศนะคะ หรืออยู่ในจังหวัด ที่เราไม่ได้เกิดที่นั่น หรือไม่ได้มาจากที่นั่น ซึ่งเราสามารถตอบเป็น ประเทศไทย ได้เลย
ยกเว้นว่าคู่สนทนาของเราอยู่เมืองไทยมานานและรู้จักหลาย ๆ จังหวัดในไทย เราสามารถตอบเป็นชื่อจังหวัดได้ค่ะ
แต่ส่วนใหญ่เค้าก็จะถามเราเองว่า จังหวัดอะไร หรือเมืองอะไร ถ้าเกิดว่าเค้ารู้จักประเทศไทยค่อนข้างดีค่ะ
ประโยคคำถาม: คุณมาจากที่ไหน เกิดที่ไหน เป็นคนที่ไหน
- Where are you from? แวรฺ อารฺ ยู ฟรอม
- Where do you come from? แวรฺ ดู ยู คัม ฟรอม
- Where were you born? แวรฺ เวอ ยู บอรฺน
ประโยคคำตอบ:
- I’m from … ไอมฺ ฟรอม
- I come from … ไอ คัม ฟรอม
- My hometown is … มาย โฮมทาวนฺ อิสฺ
- I’m originally from … ไอมฺ ออริจินอลฺลี ฟรอม
- I’m… ไอมฺ (บอกสัญชาติ)
- I was born in … ไอ วอสฺ บอรฺน อิน
ตัวอย่างบทสนทนา:
A: Where are you from?
B: I'm originally from Thailand. Where do you come from?
A: I'm from Japan.
3. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: ที่อยู่
ประโยคคำถาม: คุณอยู่ที่ไหน บ้านของคุณอยู่ที่ไหน
- Where do you live?
- What’s your address?
ประโยคคำตอบ:
อย่างที่เราเคยเรียนมาจากที่โรงเรียนนะคะ ว่าเราต้องบอกบ้านเลขที่ ทุกตรอกซอกซอย สำหรับแค่การสนทนาทั่วไป หรือการแนะนำตัวเองนั้น ไม่จำเป็นต้องบอกละเอียดขนาดนั้นค่ะ
ยกเว้นเค้าขอที่อยู่ของเราแบบละเอียด เพื่อที่จะส่งของให้ที่บ้าน หรือไปส่งเราที่บ้าน
- I live in… ไอ ลิฟฺ อิน
- My address is… (ชื่อจังหวัด) มาย แอดเดร็สฺ อิสฺ
- I live on… street. ไอ ลิฟฺ ออน (ชื่อถนน) สตรีทฺ
- I live at… ไอ ลิฟฺ แอ็ทฺ
- I grew up in… ไอ กรูวฺ อัพฺ อิน
ตัวอย่างบทสนทนา:
A: Where do you live?
B: I live at Siam Smile Condo.
4. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: อายุ
ประโยคคำถาม: คุณอายุเท่าไหร่
- How old are you? ฮาวฺ โอลดฺ อารฺ ยู
ประโยคคำตอบ:
- I’m… years old. ไอมฺ… เยียรฺสฺ โอลดฺ
- I’m… ไอมฺ
ในส่วนของคำตอบนะคะ จะตอบด้วยตัวเลขของอายุของคุณ หรือว่าอาจจะไม่ระบุตัวเลขที่แน่ชัดก็ได้ค่ะ เช่น
- I’m over… ไอมฺ โอเฟวอรฺ ฉันอายุมากกว่า…
- I'm almost / nearly… ไอมฺ ออลฺโมสฺทฺ / เนียรฺลี ฉันอายุเกือบจะ…
- I'm around your age. ไอมฺ อะราวดฺ ยอรฺ เอจฺ ฉันอายุประมาณคุณ (ใช้ได้ในกรณีที่เรารู้อายุของเค้าแล้ว)
- I’m in my early twenties. ไอมฺ อิน มาย เออรฺลี ทเว็นทีสฺ ฉันอายุยี่สิบต้น ๆ
- I’m in my late thirties. ไอมฺ อิน มาย เลทฺ เซอรฺทีสฺ ฉันอายุสามสิบปลาย ๆ
ตัวอย่างบทสนทนา:
A: How old are you?
B: I'm almost 30. You?
A: Really? you look young. I'm 35.
5. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: ครอบครัว
ประโยคคำถาม:
- How many people are there in your family? ฮาวฺ เมนี พีโปลฺ อารฺ แด อิน ยอรฺ แฟมิลี ครอบครัวของคุณมีกี่คนหรอ
- Who do you live with? ฮู ดู ยู ลิฟฺ วิซฺ คุณอยู่กับใคร
- Do you have any siblings? ดู ยู แฮฟฺ เอนี ซิบลิงสฺ คุณมีพี่น้องมั้ย
ประโยคคำตอบ:
- I have… people in my family. ไอ แฮฟฺ (จำนวนคน) พีโปลฺ อิน มาย แฟมิลี
- My family has… people. มาย แฟมิลี แฮสฺ (จำนวนคน) พีโปลฺ
- I live with my… ไอ ลิฟฺ วิซฺ มาย
- I have… brothers and …sisters. ไอ แฮฟฺ… บราเซอสฺ แอนดฺ … ซิสเตอสฺ
หรือว่าถ้าเกิดเป็นลูกคนเดียว สามารถตอบได้ว่า
- I'm the only child. ไอมฺ ดิ โอนลี ไชวดฺ
- I don’t have any siblings. ไอ โดวนทฺ แฮฟฺ เอนี ซิบลิงสฺ
ตัวอย่างบทสนทนา:
A: Do you have any siblings?
B: I have 2 sisters. How about you?
A: I'm the only child in my family.
6. แนะนำตัวภาษาอังกฤษ: อาชีพการงาน
อาชีพเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่คนมักจะเอามาคุยกันในการสนทนา หรือแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ
ถ้าคุณอยากรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพเป็นภาษาอังกฤษเพิ่ม เบญเองก็ได้รวบรวมไว้ให้แล้วค่ะในอีกโพสต์นึง ลองเข้าไปดูได้เลยจ้า
ประโยคคำถาม: คุณทำงานอะไร
- What do you do? วอทฺ ดู ยู ดู
- What do you do for a living? วอทฺ ดู ยู ดู ฟอรฺ อะ ลิฟฟิง
- What’s your job? วอทสฺ ยอรฺ จอบฺ
- What sort of work do you do? วอทฺ ซอรฺทฺ ออฟฺ เวิรฺคฺ ดู ยู ดู
ประโยคคำตอบ:
- I'm a / an… ไอมฺ อะ / แอนฺ
- I work for… as a/ an… ไอ เวิรฺคฺ ฟอรฺ (ชื่อที่ทำงาน) แอสฺ อะ / แอนฺ (ตำแหน่ง)
ถ้าไม่มีงาน หรือว่าว่างงาน สามารถพูดได้ว่า
- I’m unemployed. ไอมฺ อันเอ็มพลอยดฺ
- I am out of work. ไอ แอมฺ เอาทฺ ออฟฺ เวิรฺคฺ
- I am between jobs. ไอ แอมฺ บีทะวีน จอบสฺ
- I'm looking for a job. ไอมฺ ลุคคิง ฟอรฺ อะ จอบฺ
ตัวอย่างบทสนทนา:
A: What do you do for a living?
B: I work from home. I am a blogger.
7. การแนะนำภาษาอังกฤษ: งานอดิเรก
ประโยคคำถาม:
- What’s your hobby? วอทสฺ ยอรฺ ฮอบบี
- What do you like to do? วอทฺ ดู ยู ไลคฺ ทู ดู
- What’s your favorite… ? วอทสฺ ยอรฺ เฟบวริทฺ (เติมอะไรบางอย่าง เช่น สี สัตว์ อาหาร กีฬา เป็นต้น)
ประโยคคำตอบ:
- I like / love / enjoy… ไอ ไลคฺ / เลิฟฺ / เอ็นจอย (เติมคำกริยา + ing)
- I'm interested in… ไอมฺ อินเทร็สฺเต็ดฺ อิน
- My hobby is… มาย ฮอบบี อิสฺ
- My favorite sport is… มาย เฟบวริทฺ สปอรฺทฺ อิสฺ
- I have a passion for… ไอ แฮฟฺ อะ แพชเชิน ฟอรฺ
- I sometimes go to…, I like it because… ไอ ซัมไทมสฺ โก ทู (ชื่อสถานที่) ไอ ไลคฺ อิทฺ บีเคิสฺ (เหตุผลที่ชอบไป)
ตัวอย่างบทสนทนา:
A: What do you like to do on your weekends?
B: I enjoy reading books. and I sometimes go to a nice restaurant with my husband for dinner.
ถ้าคุณสนใจฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เข้าไปหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ตัวเองสนใจได้เลยค่ะ
เบญรับรองเลยว่า เป็นคอร์สเรียนออนไลน์ที่ดีที่สุด และราคาถูกมาก อย่างแน่นอนค่ะ
5 เคล็ดลับ ที่ควรทำในการแนะนำตัวภาษาอังกฤษ
1. ดวงตาเป็นหน้าต่างของการแนะนำตัว
การสบตากัน และมองหน้ากันขณะที่คุยกัน เป็นเรื่องที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจมาก ๆ ค่ะ (แม้กระทั่งที่ไทยเองก็เป็นเช่นกันค่ะเบญคิดว่า)
เพราะการที่เราสบตาคู่สนทนาของเราขณะที่เรากำลังแนะนำตัว หรือพูดคุย ทำให้คู่สนทนาของเรารู้สึกว่าเราจริงใจในสิ่งที่กำลังพูดและสนใจในเรื่องที่เค้ากำลังพูดอยู่
สิ่งนี้จะช่วยให้การแนะนำตัวของเราเป็นไปได้อย่างราบรื่น และการสนทนาสามารถไปต่อได้ค่ะ
ถ้าเราไม่มองตากันเลย เบญรู้เลยว่า การแนะนำตัวจะสั้นมาก ๆ เพราะมันจะรู้สึกอึดอัด และไม่เป็นธรรมชาติค่ะ
แต่เบญเองก็รู้ว่าสำหรับสาวไทย หรือคนไทยโดยทั่วไปแล้ว เราค่อนข้างขี้อาย โดยเฉพาะการต้องพูดต่อหน้าที่คนเราไม่รู้จัก หรือว่าพูดในภาษาอื่น ๆ
ทำให้เราค่อนข้างกังวล กลัวที่จะลืมประโยคที่เราท่องกันมา
แต่เบญจะขอแนะนำให้คุณ ลองฝึกการคุยโดยใช้การสบตา และมองหน้ามากขึ้นค่ะ มันเป็นสิ่งที่ฝึกได้ และมันก็จะทำให้การแนะนำตัวหรือการสนทนาภาษาอังกฤษนั้นฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
เบญเคยได้ยินมาว่า ถ้าเกิดว่าเราไม่กล้าสบตา ให้เริ่มจากการมองที่หางคิ้วก่อนก็ได้ และค่อยฝึกไปเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ดวงตาของเราสำคัญมากจริง ๆ ค่า
2. ยิ้มแย้ม แม้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป
รอยยิ้ม ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการแนะนำตัว หรือการที่เราจะคุยกับเพื่อนใหม่ หรือคนที่เราไม่เคยคุยด้วยมาก่อน
เพื่อทำให้การสนทนาไปต่อได้ด้วยความรู้สึกสบาย ๆ และไม่ตึงเครียดจนเกินไป
แม้กระทั่งเราอาจจะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรรขึ้นต่อไป หรือว่าคนที่เราคุยด้วยเค้าคิดยังไงกับคำตอบของเราที่เราได้พูดไป
แต่ถ้าเรามี big smile บนหน้าของเรา เบญเชื่อว่า คุณก็ชนะใจเค้าไปเกินกว่าครึ่งแล้วค่ะ
เพราะฉะนั้นอย่าเกร็งจนเกินไป จนลืมที่จะใส่รอยยิ้มหวาน ๆ บนหน้าของเรานะคะ 🙂
3. สื่อสารด้วยภาษากาย
เราควรแนะนำตัวของเราด้วยท่าทางที่มั่นใจ และดูเป็นมิตร บางคนอาจจะรู้สึกว่าการที่เรามั่นใจเกินไปอาจจะทำให้เราดูหยิ่งและดูไม่น่าป็นเพื่อนด้วย
แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ การที่เรามั่นใจจริง ๆ หมายถึงเรารู้ว่าเรากำลังพูดอะไรอยู่ ไม่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ หรือว่าเอาเท้าเขี่ยดิน หรือเอามือเล่นผม เหมือนคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองค่ะ
และเราก็อาจจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศด้วย เพราะการพบกันครั้งแรกนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ
บางประเทศเค้าก็ชอบที่จะกอด หรือว่าจับมือ หรือว่ายกมือไหว้เหมือนคนไทย
แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการจับมือค่ะ สำหรับการพบกันครั้งแรก แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัวของแฟนเรา หรือของเพื่อน เราก็อาจจะกอดด้วย
เป็นการแสดงถึงการที่เรายอมเปิดใจกับเค้า และไม่มองเค้าเป็นคนแปลกหน้าค่ะ
ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละวัฒนธรรม และประเพณีของแต่ละประเทศค่ะ
4. ถามคำถามกลับด้วย
การที่เราแนะนำตัว ไม่ได้หมายถึงว่าเราพูดอยู่คนเดียวเกี่ยวกับตัวเอง (อาจจะดูเป็นแบบนั้นนิดหน่อย ถ้าเกิดเราพูดอยู่บนเวที หรือยืนอยู่หน้าชั้นเรียน)
แต่จริง ๆ แล้วการแนะนำตัวหมายถึงการที่เราคุยกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลของเรา และคนที่เราคุยด้วย
เพราะฉะนั้น ต้องห้ามลืมที่จะถามคำถามกลับไปด้วย เกี่ยวกับเรื่องที่เค้าเพิ่งถามเรา เพื่อที่จะแสดงให้เค้ารู้สึกว่า เราเองก็สนใจในเรื่องของเค้าเหมือนกัน
คุณจะสังเกตุได้เลยว่า ถ้าคุณเล่าเรื่องของตัวเองอย่างเดียว หรือพูดยาว ๆ ๆ เลยเกี่ยวกับตัวเอง
คู่สนทนาของคุณก็จะหลุดความสนใจค่ะ และเบื่อ ทำให้การสนทนาครั้งนี้ไปไม่ได้ไกล
ประโยคคำถามที่เบญรวบรวมไว้ข้างล่างนี้ สามารถใช้ถามได้เลยค่ะ หรือว่าแค่พูดคำถามซ้ำที่เค้าเพิ่งถามคุณ ไปก่อนหน้านี้ก็ได้
หรือใช้ประโยคที่ทุกคนน่าาจะรู้กัน เช่น and you?, what about you?, how about you? เป็นต้นค่ะ
การฝึกพูดบ่อย ๆ ก็จะทำให้คุณพูดได้ไหลลื่นมากขึ้นค่ะ เบญมีคอร์สเรียนที่ได้แนะนำไว้ คอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับเจ้าของภาษา iTalki
เป็นคอร์สที่คุณจะเลือกครูได้เอง เรียนผ่านวีดีโอคอล และราคาไม่แพงด้วยค่ะ รับรองว่าได้ฝึกพูด-ฟัง และแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องแน่นอน

ถ้าสนใจเข้าไปลงทะเบียนเลือกดูครูได้เลยนะคะ หรือว่าจะเข้าไปอ่านรีวิวเรียนภาษาอังกฤษกับ iTalki เพิ่มเติมได้เลย
และเบญยังมีอีกหลายคอร์สที่เน้นเรื่องการฝึกพูด-ฟังกับครูเจ้าของภาษา และเลือกครูได้ไว้ให้เลือกดูด้วยนะคะ
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ และสามารถลงเรียนเพื่อฝึกการสนทนาภาษาอังกฤษของตัวเอง ทำให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
5. การจบบทสนทนา
สำหรับชาวต่างชาติแล้ว การทักทาย และการบอกลา เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลย ถ้าเกิดว่าต้องไป แล้ว
หรือว่าคุยกันจบแล้ว ก็ควรพูดประโยคสั้น ๆ เป็นการบอกลาอย่างสุภาพ เช่น
“It was great meeting you, Simon. Hope to see you around.”
“Mr. White, I'm delighted to have met you. I hope we can talk again soon.”
และการที่เราพูดชื่อเค้าในประโยคส่งท้าย ก็จะยิ่งทำให้เค้าประทับใจค่ะ ว่าเราสามารถจำชื่อเค้าได้ เพราะฉะนั้นถ้าจำได้ก็ใส่ชื่อเค้าไปในประโยคด้วยนะคะ
หวังทุกคนจะชอบโพสต์นี้กันนะคะ อ่านแล้วอย่าลืมนำไปใช้กันด้วยนะคะ เพราะนั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้เราเก่งภาษาอังกฤษค่ะ
ประโยคที่เบญนำมาวันนี้ อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่คุณจะได้ยิน หรือได้ใช้ในการแนะนำตัวจริง ๆ เพราะมันมีเยอะแยะม๊ากก เลยค่ะ
แต่คุณเข้าไปฝึกบทสนทนาภาษาอังกฤษเพิ่มเติมได้เลยค่ะ โดยการหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่ตัวเองชอบ และเริ่มเรียนภาษาอังกฤษจ้า