ถ้าคุณชอบดูวีดีโอ และอยากเก่งภาษา คุณก็มาถูกที่แล้วค่ะ
วันนี้เบญมีอีกหนึ่งคอร์สเรียนออนไลน์ ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบการเรียนแบบดูวีดีโอ เพราะรู้สึกว่ามันน่าสนใจ และมีหลายระดับให้คุณได้เลือกเรียนอีกด้วย
แต่อย่าเพิ่งลงทะเบียนกับคอร์สนี้ ถ้ายังไม่ได้อ่านรีวิวนี้จนจบ! ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านรีวิวกันเลยดีกว่าจ้า!
สรุป รีวิว FluentU
ข้อมูล: คอร์สเรียนภาษา FluentU จะช่วยให้เราเก่งภาษา ฝึกฟัง และพูดคำศํพท์ และประโยคจากการดูวีดีโอเพลง ข่าว หนังสั้น และอื่น ๆ อ่านเพิ่มเติม
ราคา: ลงทะเบียนลองเรียนฟรี 14 วัน และอัพเกรดเป็นแบบรายเดือน หรือรายปี ราคาเริ่มต้นที่ 900 บาท/เดือน อ่านเพิ่มเติม
ข้อดี: มีคำศัพท์ ความหมาย และประโยคให้ฝึกฟัง และอ่านหลังเรียนจากวีดีโอ และแบบฝึกหัดหลังเรียนจะช่วยให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติม
ข้อเสีย: บทเรียนและวีดีโอมีให้เลือกเรียนไม่หลากหลายมาก และไม่มีคำแปลภาษาไทยให้ อ่านเพิ่มเติม
แนะนำ: ถ้าคุณอยากเรียนภาษาโดยเน้นไปทางคำศัพท์ และประโยคง่าย ๆ ที่ราคาไม่แพงก็แนะนำเป็นคอร์สนี้เลยค่ะ
FluentU คืออะไร?
FluentU คอร์สเรียนภาษาออนไลน์ เน้นเรื่องการฟัง-ออกเสียง และเรียนคำศัพท์กับประโยคมากมาย จากการดูวีดีโอ
เป้าหมายของคอร์สนี้ก็คือ ช่วยให้คนที่ต้องการอยากจะเก่งภาษานั้นได้เรียนภาษาในรูปแบบที่สนุกและไม่น่าเบื่อ
ให้เราได้เรียนผ่านทางสื่อต่างๆ ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ทุกๆคำศัพท์และทุกๆประโยคที่เราได้เรียนรู้จากที่นี่นั้น เป็นคำศัพท์และประโยคที่คนใช้กันในปัจจุบัน
FluentU เป็นอีกคอร์สนึงที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับคนที่อยากเรียนภาษาออนไลน์ค่ะ
และเป็นคอร์สเรียนภาษาออนไลน์ที่เหมาะกับวัยรุ่นในปัจจุบัน ที่ไม่ชอบเรียนนาน ๆ และไม่ชอบเรียนในห้องเรียน
คุณจะเรียนภาษากับคอร์สนี้บนอะไรก็ได้ เช่น Website, iPhone app, iPad app, Android และเรียนเมื่อไหร่ และที่ไหนก็ได้ เพราะเป็นออนไลน์
เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะมีคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค หรือแค่โทรศัพท์เครื่องเดียว ก็เริ่มเรียนกับ FluentU และเริ่มเก่งภาษาในฝันของตัวเองได้เลยค่ะ
FluentU สอนภาษาอะไรบ้าง?
FluentU มีภาษาให้เลือกเรียนทั้งหมด 10 ภาษาค่ะ เป็นภาษาที่คนทั้งโลกค่อนข้างนิยมเรียนกันด้วย แต่ก็ยังไม่ได้หลากหลายขนาดนั้น
แต่เบญเชื่อว่า ยังไงก็ยังมีหลายภาษาที่เป็นที่นิยม และก็น่าจะเป็นภาษาที่คุณอยากเรียนค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
| FluentU Chinese ภาษาจีน | FluentU Spanish ภาษาสเปน |
| FluentU French ภาษาฝรั่งเศส | FluentU English ภาษาอังกฤษ |
| FluentU German ภาษาเยอรมัน | FluentU Japanese ภาษาญี่ปุ่น |
| FluentU Italian ภาษาอิตาลี | FluentU Korean ภาษาเกาหลี |
| FluentU Russian ภาษารัสเซีย | FluentU Portuguese ภาษาโปรตุเกต |
เจอกับภาษาที่ตัวเองอยากเรียนด้วยอยู่หรือเปล่าคะ ถ้าเจอแล้วไปลงทะเบียนฟรีได้เลย
FluentU ต้องเรียนยังไง
คอร์สเรียนภาษา FluentU เราจะได้เรียนผ่านวีดีโอหลายหัวข้อให้เลือกเรียน มีคำแปล และมีคำศัพท์ที่เราควรเรียนรู้จากวิดีโอนั้นๆ
มีให้เลือกเรียนทั้งหมด 6 ระดับ และในแต่ระดับจะมีวีดีโอให้เราเรียนไม่เท่ากันค่ะ ตัวอย่างเรียนภาษาอังกฤษอย่างในรูปข้างล่างนะคะ
เบญจะอธิบายบทเรียนแต่ละอย่างให้คุณได้ดูนะคะ เพื่อที่คุณจะได้มีไอเดียมากขึ้นว่าหน้าตาของคอร์สเรียนจะเป็นประมาณไหน
และถ้าคุณได้เข้าไปลองเรียนแล้ว จะได้พัฒนาภาษาที่คุณอยากเก่งได้ยังไงบ้าง
1. Video Dictionary
คอร์สนี้จะวีดีโอหลากหลายหมวดหมู่ให้คุณได้เลือกเรียนนะคะ และก็จะเป็นวีดีโอที่คุณอาจจะเคยได้ยิน และได้ดูมาก่อนแล้วบน YouTube
แต่ว่าจะมีซัพในภาษาที่คุณเลือกเรียนมาให้คุณได้อ่านไปด้วย พร้อมทั้งฟังจากวีดีโอค่ะ
ในส่วนนี้จะช่วยให้คุณได้ฝึกฟัง และอ่านตามประโยคในวีดีโอได้
เบญแนะนำว่าถ้าคุณเพิ่งเริ่มเรียนและอาจจะอ่านไม่ทัน ก็หยุดเป็นท่อน ๆ และฝึกพูดตามไปได้เลยค่ะ แต่ถ้าคุณพอจะอ่านตามทันแล้ว ก็อาจจะอ่านไปพร้อมกับวีดีโอได้เลย
2. Word Lookup
ถ้าคุณไม่เข้าใจความหมายของคำศัพท์ที่คุณกำลังอ่าน หรือฟังอยู่ ก็แค่เอาเม้าส์ไปชี้ หรือคลิกไปที่คำนั้น จะมีความหมาย หรือวิธีการใช้คำนั้นให้ดู
น่าเสียดายตรงที่คอร์สนี้ไม่มีคำแปลภาษาไทยให้เลือก ไม่งั้นเบญคิดว่าก็จะยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ เราไม่ต้องเข้าไปดูแปลภาษาในกูเกิ้ลอีกต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเป็นประโยชน์อยู่นะคะ เพราะว่ามีรูปภาพให้เราดูด้วย
3. Vocab & Dialogue
หลังจากที่เราได้เรียนจากวีดีโอไปแล้ว ข้างใต้วีดีโอนั้นจะมีคำศัพท์ และประโยค แยกไว้ให้เราฟัง และฝึกพูด ออกเสียงตามเจ้าของภาษา
ส่วนตัวเบญชอบบทเรียนตรงนี้มากค่ะ เพราะว่าบางครั้งเราอาจจะไม่รู้ว่าต้องออกเสียงยังไง แต่ถ้าเราฟังแต่ละคำแบบเน้น ๆ เราก็จะฝึกออกเสียงตามได้จนเหมือนเป๊ะเลย
และถ้าคำศัพท์ไหนที่เรายังจำไม่ได้ หรือยังไม่เข้าใจความหมาย ก็เลือกไว้และวนกลับมาฝึกใหม่ได้ค่ะ
4. Quiz
หลังจากที่ดูวีดีโอ เรียนคำศัพท์ และประโยคแยกไปแล้ว เราก็ทำแบบฝึกหัดได้เลยค่ะ
โดยที่แบบฝึกหัดจะมีคำศัพท์และประโยคที่เราเพิ่งได้เรียนมา โดยที่จะให้เราเลือกคำศัพท์ที่หายไปและทำให้ประโยคสมบูรณ์ขึ้น
และบางครั้งก็ให้เราพิมพ์คำศัพท์นั้น ช่วยให้เราจำคำศัพท์ได้เร็วมากขึ้น
ถ้าเราตอบไม่ถูก แบบฝึกหัดก็จะวนกลับมาช่วยสอนเราเพิ่มเติมอีกครั้ง
เบญชอบแบบฝึกหัดของคอร์สนี้ เพราะว่าเค้ามีตัวอย่างประโยคสนทนาหลายประโยค ให้เราได้เรียน และฝึกแต่งประโยคให้สมบูรณ์
จะช่วยให้เรารู้ว่า เราจะเอาคำศัพท์ที่เราเรียนมานั้น ไปใช้ในประโยคได้ยังไง
จากที่ได้ลองเรียนภาษาอังกฤษกับ FluentU มา เบญคิดว่าบทเรียนของเค้าก็ดีเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่อยากฝึกฟัง พูด คำศัพท์ และก็ประโยคทั่วไป
แต่เบญอยากให้คุณได้เข้าไปทดลองเรียนฟรี กับคอร์สนี้ด้วยตัวเอง และลองดูสิว่า คุณชอบบทเรียนของคอร์สนี้เหมือนกับที่เบญชอบหรือเปล่า
FluentU ราคาเท่าไหร่
FluentU มีให้ลงทะเบียนทดลองเรียนฟรี 14 วัน ราคาคอร์สจะมี 2 แบบให้เลือก คือ 900 บาท/เดือน หรือ 7,300 บาท/ปี
ในส่วนราคาของราคานั้นจะเป็นแค่โดยประมาณนะคะ อาจจะแพงขึ้นหรือถูกลงนิดหน่อย แล้วแต่ว่าเรทเงินของแต่ละวันนั้นจะเป็นยังไง
โดยที่ในตอนที่คุณเข้าไปลงทะเบียนทดลองเรียนฟรี ทางเว็บไซต์ก็จะให้คุณกรอกข้อมูลการชำระเงินด้วยนะคะ เช่น บัตรเดบิด หรือ PayPal
แต่ว่าคุณจะยังไม่เสียเงินคา่คอร์สเรียน จนกว่าจะหมด 14 วัน และทางเว็บไซต์จะส่งอีเมลล์เข้าไปเตือนคุณอีกรอบค่ะ
ถ้าไม่ยกเลิก คุณก็จะได้เสียเป็นแบบรายเดือนหักออกจากบัญชีของคุณเลย
ของเบญเลือกชำระเป็นแบบ PayPal และไม่ได้ถูกโกงนะคะ รับรองได้เลยว่าถ้าคุณจ่ายไปแล้ว คุณจะก็ได้เรียนตามที่คุณได้จ่ายไปค่ะ
ข้อดีของ FluentU
1. บทเรียนไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย
คอร์สเรียนภาษา FluentU ทำบทเรียนออกมาให้ทุกคนเรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ หรือว่าคุณจะเพิ่งเริ่มเรียนภาษาออนไลน์ ก็ไม่ต้องปวดหัวเลยค่ะ
แค่เรียนตามบทเรียนที่เค้าวางไว้ให้แล้ว โดยที่เราไม่ต้องมานั่งเตรียมบทเรียนเอง หรือทำอะไรให้ยุ่งยากเลย
1. ช่วยพัฒนาเรื่องการแต่งประโยค
คอร์สเรียนภาษาหลายคอร์สที่เบญเคยเจอ ก็จะเน้นไปที่คำศัพท์ แต่ว่าคอร์สนี้มีประโยคให้เราได้เรียน และอธิบายตัวอย่างให้เราดูว่าเราควรเอาคำนั้นไปใช้ในประโยคได้ยังไง
ทำให้เราเข้าใจเรื่องการแต่งประโยคมากขึ้น และนั่นจะช่วยให้เราพูดเป็นประโยค และพูดสนทนาได้อย่างคล่องแคล่วค่ะ
ข้อเสียของ FluentU
1. มีวีดีโอให้เรียนไม่เยอะมาก
น่าเสียดายที่แต่ละเลเวลมีวีดีโอให้เรียนไม่เยอะมากค่ะ เพราะถ้าเราเรียนทุกวัน วันละ 1 วีดีโอ ก็อาจจะทำให้บทเรียนหมดเร็วเกินไป
แต่เบญเชื่อว่า เค้าจะต้องอัพเดทวีดีโอเพิ่มให้ในอนาคตอย่างแน่นอนเลยค่า
2. ไม่มีคำแปลภาษาไทย
เบญชอบที่คอร์สนี้มีความหมายของคำศัพท์ให้เราได้อ่านเพิ่ม แต่ถ้าเป็นภาษาไทยก็จะยิ่งทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
ถ้าวันนึงคอร์สนี้เพิ่มคำแปลภาษาไทยให้เรา เบญก็จะแฮ้ปปี้มาก ๆ เลยค่ะ 🙂
3. ระวังเวลากดดูตรงแผนการเรียน
ที่เบญพูดถึงในที่นี้ก็คือว่า หลังจากที่หมดแผนเรียนฟรี 14 วันแล้ว และต่อให้คุณจ่ายค่าคอร์สเป็นรายเดือนไปแล้ว
แต่ถ้าคุณไปกดดูตรงเปลี่ยนแผนการเรียนเป็นรายปี คุณก็จะถูกหักเงินสำหรับรายปีไปด้วยทันที
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเบญค่ะ เพราะเบญซื้อคอร์สรายเดือนไปแล้ว และกำลังเข้าไปดูราคาของรายปีเฉย ๆ และไม่ได้กดตกลงหรืออะไรเลย
แต่เงินกับถูกตัดออกจาก PayPal และบอกว่าเบญได้ซื้อคอร์สแบบรายปีด้วย ทั้ง ๆ ที่ก็ยังมีรายเดือนให้ใช้อยู่
แต่เบญได้ส่งอีเมลล์ไปขอเงินคืน ใช้เวลาประมาณ 2 วัน ก็ได้เงินคืนมาเรียบร้อยค่ะ
เบญเชื่อว่าคอร์สนี้ไม่ได้โกงเรา แต่อาจจะเป็นที่ระบบของเค้า เลยอยากจะมาบอกทุกคนไว้ก่อนว่าให้ระวังเท่านั้นเองค่ะ
แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น ก็ขอเงินคืนได้เลยนะคะ เค้าให้คืนค่ะ
สรุป FluentU ดีไหม
ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวกับการเรียนกับคอร์สเรียนภาษา FluentU แล้ว เบญคิดว่าเป็นคอร์สที่ดี และจะช่วยให้คุณได้พัฒนาภาษาที่ตัวเองอยากเก่งได้แน่นอนเลยค่ะ
ด้วยข้อดีหลายประการที่เบญได้พูดถึงข้างบนแล้ว ถ้าคุณชอบคอร์สเรียนภาษาแนวนี้ก็ห้ามพลาดเลยค่ะ
และเบญไม่อยากให้คุณเชื่อรีวิวนี้ จนกว่าคุณจะได้ลองเรียนเองนะคะ
เพราะฉะนั้นรออะไรอยู่? ไปรีวิวคอร์สเรียนนี้ด้วยตัวเองเลยจ้า!!
แต่ถ้าคุณยังรู้สึกว่าคอร์สนี้ไม่ใช่แนวของคุณ เบญมีอีกหลายคอร์สเรียนภาษาออนไลน์ที่ดี ราคาถูก มาเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ค่ะ
เจ้าไปเลือกดูคอร์สที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดได้เลย ตามภาษาข้างล่างนี้ที่คุณอยากเก่ง
รวมคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด
รวมคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ดีที่สุด
รวมคอร์สเรียนภาษาเกาหลีที่ดีที่สุด
รวมคอร์สเรียนภาษาจีนที่ดีที่สุด
รวมคอร์สเรียนภาษาฝรั่งเศสที่ดีที่สุด
รวมคอร์สเรียนภาษาเยอรมันที่ดีที่สุด
ถ้าคุณชอบหรือไม่ชอบ FluentU ยังไง อย่าลืมมาเม้นไว้ให้อ่านกันบ้างนะคะ 🙂