เบญมีวิธีง่าย ๆ ที่เบญได้ลองทำ และก็ยังทำอยู่ในปัจจุบันมาฝากค่ะ เบญทำแล้วช่วยให้การพูดภาษาอังกฤษของเบญดีขึ้นจริง ๆ
แต่อย่าลืมว่าต้องทำอย่าสม่ำเสมอด้วยนะคะ ทำแค่ครั้งเดียว หรือวิธีเดียว จะไม่ได้ช่วยอะไรค่ะ แต่เบญขอแนะนำให้คุณทำทั้ง 5 วิธีเลย เพราะแต่ละวิธี ก็ไม่ได้ยากอะไรเลยค่ะ
แม้แต่เบญเป็นคนที่ทำงานเยอะ มีเวลาว่างน้อย แต่ก็ยังฝึกตามวิธีพวกนี้ได้ เบญรับรองได้เลยค่ะ ว่าคุณเองก็ต้องทำได้แน่นอน สู้ ๆ
1. ฝึกลิ้นของตัวเองทุกวัน
เริ่มกันด้วยข้อแรกที่หลายคนมองหน้า แต่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เก่ง เพราะว่าเสียงตัวอักษรภาษาไทยกับภาษาอังกฤษไม่เหมือนกันค่ะ
โดยเฉพาะบางตัวที่ภาษาอังกฤษมี แต่ไม่มีในภาษาไทย แต่เท่าที่เบญเห็นก็คือคนไทยเอาตัวอักษรภาษาอังกฤษมาใส่การออกเสียงแบบอักษรไทย เลยทำให้เรารู้สึกว่าทำไมเราถึงออกเสียงไม่เหมือนเจ้าของภาษาสักที
เมื่อก่อนเบญเองก็ไม่เคยแยกออกว่า ระหว่างการออกเสียงอักษรภาษาอังกฤษมันแตกต่างกับของไทยยังไง และเบญก็พูดผิด (ไม่ใช่ผิดค่ะ แค่ไม่ถูก 555) มาอย่างน้อย 5 ปี
จนวันนึง เบญจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เบญก็แบบ อ้าว ตัว r ไม่ได้ออกเสียงเหมือน ร นี่นา ซึ่งเบญบอกได้เลยว่าตัว r นี่แหละค่ะ ตัวปราบเซียนมาก ที่ออกเสียงค่อนข้างยาก เพราะภาษาไทยไม่มี
และนี่คือวิธีที่ช่วยให้เบญได้ฝึกออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษได้ ก่อนที่จะเริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษเป็นประโยค
➝ ดูวีดีโอใน YouTube หรือที่อื่นที่สอนการม้วนลิ้น หรือวางลิ้นที่ถูกต้อง เบญเองก็จำไม่ได้ว่าดูมาจากไหนบ้าง แต่เบญเอาวีดีโอที่สอนดีมาก ๆ มาฝากค่ะ
แต่ไม่ได้มีแค่ตัว R กับ L นะคะ ที่ออกเสียงยาก อีก 1 ตัวเลยที่ยากพอ ๆ กัน ก็คือตัว TH ค่ะ ซึ่งเราเห็นบ่อยมากในคำภาษาอังกฤษ เช่น the, they, then, through
และอีกหนึ่งอย่างที่เบญทำนะคะ ก็คือ ➝ ฝึกฟัง และพูดตาม คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีตัว R, L และก็ TH เพื่อฝึกลิ้นของเราให้ชิน
ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะไปรวบรวมคำศัพท์จากที่ไหน ใช้คอร์สที่เบญใช้ก็ได้นะคะ ชื่อ EnglishClass101 ค่ะ ลงทะเบียนฟรี และก็ดูคำศัพท์ฟรีด้วยจ้า
จะมีทั้งคำศัพท์ให้เราดู-ฟัง และก็มีประโยคภาษาอังกฤษตัวอย่าง ที่ใช้คำศัพท์ให้เราดูด้วยค่ะ คลิกไปที่รูปก็ได้นะคะ ถ้าอยากเข้าไปดูหน้าตาของคอร์สนี้
จะบอกว่าตอนฝึกลิ้นของเราใช้ชินกับการออกเสียงให้ถูกต้องแรก ๆ อาจจะยากหน่อย
แต่ว่าถ้าฝึกไปเรื่อย ๆ เราจะยิ่งเห็นความแตกต่างระหว่าง การออกตามอักษรไทยกับอังกฤษแน่นอนค่ะ
เพราะฉะนั้นทิ้งการออกเสียงแบบเดิม ๆ ที่เราเคยใช้มาตลอดทั้งชีวิต และก็ฝึกในแบบที่ถูกต้องกันค่ะ
มันไม่มีคำว่าช้าเกินไป หรือยากเกิน เริ่มวันนี้ และรับรองว่าคุณจะออกเสียง และพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของภาษาเลยจ้า!
2. ฝึกคิด-แต่งประโยคง่าย ๆ
เบญคิดว่าการที่เราเอาคำศัพท์ที่เรารู้อยู่แล้ว หรือคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เราเพิ่งได้เรียนวันนี้ มาลองแต่งประโยคเอง
จะทำให้เราจำคำศัพท์ได้มากขึ้น และทำให้เราคิดประโยคภาษาอังกฤษเร็วขึ้นเวลาที่เราพูด
วิธีง่าย ๆ ที่เป็นทำก็คือ เอาคำศัพท์อาจจะเป็นจากข้อที่ 1 ที่เพิ่งฝึกออกเสียงไป มาลองแต่งประโยคง่าย ๆ ค่ะ
ตอนนี้คุณอาจจะคิดว่า พูดภาษาอังกฤษยังไม่ได้เลย จะให้มาแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้ยังไง หรือว่าไม่รู้จักแกรมม่าภาษาอังกฤษเลย จะแต่งประโยคถูกได้หรอ
เบญบอกไว้เลยว่า แค่แต่งแบบคนคร่าว ๆ ค่ะ เหมือนเป็นการรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เรารู้จักมาอยู่ด้วยกัน โดยที่คุณอาจจะเริ่มแบบนี้ก็ได้
เลือกประธาน ตามด้วยกริยา และจบด้วยกรรม เหมือนกับประโยคภาษาไทยเลยค่ะ เช่น ถ้าคำศัพท์ที่คุณเรียนวันนี้เป็นคำว่า three ก็แต่งเป็น I (ประธาน) see (กริยา) three cats (กรรม)
หรือ Thursday: Today is Thursday. และ Mirror: I have a big mirror
คุณเองก็แต่งประโยคง่าย ๆ แบบนี้ได้เลย นี่เป็นอีกสิ่งนึงที่เบญทำเองที่บ้านบ่อย ๆ และมันทำให้สมองของเบญคิดเป็นภาษาอังกฤษได้ไวขึ้น เวลาที่ต้องเอามาใช้พูดจริง
อยากให้คุณลองทำแบบนี้ที่บ้านดูนะคะ และมาคอมเม้นบอกเบญด้วยว่าฝึกไปสักพัก มันทำให้คุณพูดภาษาอังกฤษออกมาได้เร็วขึ้นมั้ย แทนที่จะต้องหยุดคิดไป 2 นาที อาจจะเป็นแค่ 30 วินาทีก็ได้ ลองดูจ้า!
3. ฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
อย่าไปเชื่อเวลาที่คุณอาจจะอ่านมาจากในเว็บ หรือหนังสือเล่มไหนที่บอกว่าให้คุณฝึกแกรมม่า เรียนแกรมม่า จำแกรมม่า ก่อนที่จะฝึกพูดภาษาอังกฤษเด็ดขาดเลยนะคะ!
อย่างที่เรารู้กัน เราเรียนแกรมม่าภาษาอังกฤษมาจากโรงเรียนตั้งกี่ปี แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เราพูดภาษาอังกฤษเป็นเลย
แต่สิ่งที่เบญทำอยู่ และอยากแนะนำให้คุณทำก็คือ หาประโยคภาษาอังกฤษทั่วไป หรือที่เห็นบ่อย ใช้บ่อย ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน มาฝึกพูดที่บ้านค่ะ
อาจจะปริ้นออกมา จดไว้ หรือบันทึกไว้ในโทรศัพท์ตัวเองก็ได้ และก็ฝึกพูดตามทุกวัน
ของเบญมีลิสต์ประโยคภาษาอังกฤษไว้บน EnglishClass101 ค่ะ และเบญก็ฝึกพูดตามประโยคนั้นวัน
ถ้าคุณอยากได้ลิสต์ประโยคเหมือนเบญ ก็คลิกที่นี่ได้เลย >> รวมประโยคภาษาอังกฤษใช้บ่อย
ก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ…
ประโยชน์ของการฝึกพูดภาษาอังกฤษจากประโยคพวกนี้ ก็คือทำให้เราคิดประโยคได้เร็วขึ้น เวลาที่เราต้องสนทนากับฝรั่ง
และมันก็ช่วยให้เราเข้าใจวิธีการแต่งประโยค หรือหลักแกรมม่าได้มากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องไปนั่งจำเลยค่ะ
แค่สังเกตว่าประโยคนี้ แต่งประมาณไหน และเราก็ทำความเข้าใจกับมัน มากกว่าแค่นั่งจำ เพราะจะทำให้เราเข้าใจเวลาที่เราใช้พูดจริง ๆ ค่ะ
4. พูดตามเจ้าของภาษา
หลังจากที่เราฝึกลิ้นของเราให้ออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ฝึกแต่งประโยคแล้ว และก็มีลิสต์ประโยคภาษาอังกฤษที่เจอบ่อย ๆ อันนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญค่ะ
เพราะว่าเราไม่ได้มีเพื่อนฝรั่ง หรือแฟนฝรั่ง ที่จะคอยมาพูดประโยค หรือคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้เราฟังตลอด
เบญเลยได้ไปเจอกับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ EnglishClass101 นี้มาค่ะ
และไม่นานมานี้ เค้าก็เพิ่งอัพเกรดบทเรียนของเค้า ให้เราฟังเป็นคำ ๆ หรือเป็นประโยค ๆ และพูดตามได้เลย
เหมือนกับในรูปข้างล่างนี้นะคะ เบญฟังประโยคก่อน 1 หรือ 2 รอบ และก็พูดตามโดยการอัดเสียงตัวเอง
พออัดเสียงตัวเองเสร็จ เราก็ลองมาฟังเทียบกันอีกรอบนึงดูค่ะ ว่าเราพูดสำเนียงได้เหมือนกับเจ้าของภาษาขนาดไหน เบญรู้ว่าเราอาจจะไม่ได้พูดเหมือนแบบ 100%
แต่เบญรับรองได้เลยว่า ถ้าคุณฝึกฟัง ฝึกพูดตามแบบนี้ คุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมาก ๆ เบญรู้สึกว่าสำเนียงภาษาอังกฤษของตัวเอง ก็เริ่มดีขึ้น และเหมือนกับต้นฉบับมากขึ้นค่ะ
เพราะฉะนั้น อย่าลืมนะคะ อยากมีสำเนียงเหมือนเจ้าของภาษา ก็ต้องฝึกฟัง และพูดตาม เลียบแบบเจ้าของภาษาให้ได้มากที่สุดค่ะ
เข้าไปฝึกฟัง-พูดตามเจ้าของภาษาเลยตอนนี้ >
5. พูดในชีวิตประจำวันให้บ่อยเท่าที่จะทำได้
มาถึงวิธีสุดท้ายที่จะช่วยให้คุณได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษที่บ้านแล้วนะคะ วิธีนี้เองก็เป็นอีกวิธีนึงที่สำคัญมาก ๆ และเป็นวิธีที่หลาย ๆ คนมองข้าม
แต่สำหรับเบญแล้ว เบญคิดว่ามันสำคัญมาก ๆ และถ้าเราไม่ได้ทำวิธีนี้ อาจจะทำให้วิธีทั้งหมดที่เราทำมาข้างบนเสียเวลาเปล่าก็ได้ เพราะเราจะลืมค่ะ
นั่นก็คือการใช้ หรือพูดภาษาอังกฤษให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
เพราะว่าถ้าคุณไม่ได้พูด หรือใช้ภาษาอังกฤษที่เรียนมาเลย คุณก็จะไม่รู้ว่าตัวเองพัฒนาไประดับไหนแล้ว
แต่ถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลาไปนั่งพูดคุยใช้ภาษาอังกฤษบ่อยขนาดนั้น หรือว่าไม่ค่อยมีเพื่อนเหมือนเบญ 555 เบญก็แนะนำเป็น 2 คอร์สข้างล่างนี้เลยค่ะ
เพราะเบญก็ฝึกพูดภาษาอังกฤษของตัวเองกับ 2 คอร์สนี้เป็นประจำค่ะ
➝ ฝึกพูดภาษาอังกฤษ และส่งไปให้ครูเจ้าของภาษาช่วยคอมเม้น
อันนี้เป็นคอร์สของ EnglishClass101 ที่เบญได้พูดถึงเยอะมาก ๆ เลยในโพสต์นี้นะคะ เพราะเบญชอบคอร์สนี้จริง ๆ และอยากให้คุณได้ลองเรียนกับคอร์สนี้ด้วยค่ะ
ถ้าคุณอัพเกรดเป็นแบบ Premium Plus คุณจะแชทคุยส่วนตัวกับคุณครูเจ้าของภาษาได้
และสิ่งที่เบญแนะนำให้ทำก็คือ ไม่ว่าจะเป็นประโยคที่เราแต่งเอง หรือว่าประโยคที่เราฝึกพูดทั้งอาทิตย์นี้
อัดวีดีโอตัวเอง และส่งไปให้คุณครูเค้าดู และคอมเม้นให้กับเราค่ะ ว่าเราแต่งประโยคถูกมั้ย หรือว่าเราออกเสียงถูกหรือเปล่า และเราก็เอาคอมเม้นมาแก้ไข
แค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ก็เป็นการช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษของเราได้ดีมาก ๆ ค่ะ และเบญเชื่อว่าเราจะยิ่งพัฒนาไปได้เร็วมากขึ้นเมื่อเราเอาคอมเม้นจากครูมาปรับใช้ด้วยค่ะ
เบญได้เขียนโพสต์รีวิวคอร์สเรียนนี้แบบเต็ม ๆ พร้อมวีดีโอ ไว้ด้วยนะคะ เข้าไปดูได้เลย
รีวิวเรียนภาษาอังกฤษกับ EnglishClass101 >
➝ ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูฝรั่ง เน้นเรื่องการสนทนาภาษาอังกฤษ
อันนี้เป็นอีกคอร์สโปรดของเบญ ที่เบญเก็บเอาไว้ฝึกพูดภาษาอังกฤษโดยเฉพาะเลยค่ะ กับคอร์ส iTalki เป็นคอร์สที่เราเลือกครูที่เราอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษได้เองด้วย
และขอกระซิบเลยว่า มีครูจากหลายประเทศ ที่เราอาจจะหาในไทยไม่ได้ แต่ขอบคุณพระเจ้าสำหรับอินเตอร์เน็ตในสมัยนี้ค่ะ 555
และก็อย่าลืมบอกคุณครูไปด้วยนะคะ ว่าเป้าหมายของเราคือฝึกพูดภาษาอังกฤษค่ะ เบญเรียนกับคอร์สนี้ประมาณอาทิตย์ ละ 1 ชั่วโมง หรือถ้ายุ่ง ๆ หน่อย ก็เดือนละ 2 ครั้งค่ะ
แต่แค่นั้น เบญเองก็ได้เห็นความคืบหน้าของการพูดภาษาอังกฤษของเบญได้ค่อนข้างเยอะเลย และถ้าคุณมีเวลามากกว่าเบญ ก็แนะนำให้จองคลาสเข้าไปฝึกบ่อยกว่านั้นค่ะ
อารมณ์คล้าย ๆ กับว่าเรามีติวเตอร์ภาษาอังกฤษส่วนตัว และคุณครูเค้าก็จะเน้นเป็นการสนทนาให้กับเราเลยค่ะ ตรงประเด็นสุด ๆ
อ้อ ลืมบอกไปว่า ถ้าคุณลงทะเบียน และเรียนกับ iTalki ผ่านทางลิงค์ที่เบญมีให้นี้ คุณจะได้รับเครดิต $10 (ประมาณ 300กว่าบาท) ฟรี สำหรับไปใช้ซื้อคอร์สชั่วโมงหน้านะคะ
แต่ถ้าอยากรู้จักกับคอร์สนี้มากขึ้น เบญก็ได้เขียนรีวิวเรียนกับ iTalki พร้อมวีดีดีโอไว้ให้อ่านแล้วค่ะ
ถ้าคุณมีวิธีฝึกภาษาอังกฤษที่ตัวเองทำอยู่และได้ผล ก็อย่าลืมมาแบ่งปันกันไว้ในคอมเม้นข้างล่างนี้ด้วยนะคะ มีคำถามอะไรเพิ่มเติม ก็เม้นไว้ได้เลยจ้า