ใครบอกกันกว่าคนที่ทำงานประจำ คนที่งานยุ่งเก่งภาษาอังกฤษไม่ได้?

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องทำงานและทำอย่างอื่นทั้งวัน แต่ก็อยากเก่งภาษาอังกฤษ คุณมาถูกที่แล้วค่ะ

รับรองเลยว่าหลังจากที่คุณอ่านโพสต์นี้ และเอาไปทำตามจริง ๆ คุณจะเริ่มเห็นความคืบหน้าในภาษาอังกฤษของตัวเอง และเก่งภาษาอังกฤษได้แน่นอน

1. เปลี่ยนทุกอย่างที่ทำเป็นภาษาอังกฤษ

ตอนนี้คุณอาจจะบอกว่า ห้ะ ต้องเปลี่ยนทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษเลยหรอ?

ถ้าคุณเปลี่ยนทุกอย่างไม่ได้ ก็เปลี่ยนบางอย่าง หรือพยายามเปลี่ยนให้มากที่สุดค่ะ..

เพราะสิ่งที่เบญพูดถึงในที่นี้ก็คือ ภาษาบนโทรศัพท์ ภาษาบนจอทีวี ภาษาบนคอมพิวเตอร์ สิ่งที่เราใช้เป็นประจำอยู่แล้ว ให้เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้เลยค่ะ

ทำยังไงก็ได้ให้คุณได้เห็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และก็รายล้อมตัวของคุณเองด้วยภาษาอังกฤษ เพราะลองคิดดูสิคะว่าวันนึงคุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกี่ครั้ง ใช้โทรศัพท์วันละกี่นาที

หรือว่าสิ่งที่เบญอยากแนะนำให้คุณทำจริง ๆ ก็คือ การจดรายการสิ่งที่เราอยากซื้อเป็นภาษาอังกฤษ หรือว่าสิ่งที่เราจะทำวันนี้เป็นภาษาอังกฤษ

เบญทำอยู่กับตัวเองทุกวัน และก็รู้สึกว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราทำ และป้อนทำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ ๆ ให้กับสมองของเรา ทำให้เราเริ่มชินกับภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวัน

2. ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองเวลาว่าง

เบญเองก็เป็นอีกคนที่อยู่ในวัยทำงาน และก็มีสิ่งที่ต้องทำเยอะแยะในแต่ละวัน ยังไม่รวมถึงงานบ้าน เรียนพระคัมภีร์ออนไลน์ เจอกับเพื่อน และก็ทะเลาะกับสามีด้วยนะ 🤣

อยากให้ตัวเองมีเวลาวันละ 80 ชม. มากเลยค่ะ แต่ในชีวิตจริงเรามีเวลาจำกัดวันละ 24 ชม. แต่เบญเชื่อว่าเราใช้เวลานั้นให้คุ้มทุกวินาทีได้

ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งรอรถกลับบ้าน เข้าห้องน้ำ มีเวลาว่างเหลือหลังกินมื้อเที่ยง/เบรคกินขนม หรือว่าช่วงเย็นที่บ้านหลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จ

คุณจะเซอร์ไพร์สมากเลยค่ะ ถ้าลองสังเกตว่าตัวเองเอาช่วงเวลาว่างไปส่องเฟซบุ้ค หรือเลื่อนขึ้นลงดูรูปในอินสตาแกรมเยอะมากขนาดไหนต่อวัน

ลองคิดดูสิคะ ถ้าคุณเอาเวลานั้นมาฝึกภาษาอังกฤษเพิ่ม ภาษาอังกฤษของคุณจะไปได้ไกลขนาดไหนแล้ว

ข้างล่างนี้เป็นสิ่งที่คุณจะเอามาฝึกในช่วงเวลาว่างระหว่างวันของตัวเองได้ และจะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นได้แน่นอนเลย

ฝึกภาษาอังกฤษด้วยแอพเรียนบนมือถือ

เชื่อเลยว่าทุกคนจะต้องมีมือถืออยู่กับตัวเองอย่างน้อย 1 เครื่อง และมันก็จะดีมากถ้าเราใช้มือถือเครื่องนั้นให้เป็นประโยชน์มาขึ้นใช่มั้ยคะ

บนมือถือของเบญมีแอพเรียนภาษาอังกฤษดี ๆ อยู่หลายแอพเลย ที่เบญเอาขึ้นมาฝึกเล่น ๆ ช่วงที่มีเวลาว่าง เพราะว่ามันเป็นบทเรียนที่สั้น และก็สนุกอีกด้วยค่ะ

บางแอพก็มีเกมให้เล่น บางแอพก็มีบทสนทนาภาษาอังกฤษให้เราได้ฝึกโต้ตอบ เหมือนได้ฝึกคุยกับเจ้าของภาษาทิพย์เลย ตัวอย่างเช่น แอพเรียนภาษา Mondly ข้างล่างนี้ค่ะ

บอกได้เลยว่าหนึ่งในแอพที่ต้องมีติดเครื่องไว้เลยค่ะ รับรองเลยว่าคุณจะได้เรียนคำศัพท์ ประโยค และบทสนทนาภาษาอังกฤษเพิ่มในเวลาแค่ไม่กี่นาทีแน่นอน

อย่าลืมเข้าไปหาแอพเรียนภาษาอังกฤษที่ตัวเองชอบ และก็โหลดไว้ในเครื่องสัก 2-3 แอพ และเอามาฝึกเวลาที่มีเวลาว่างนะคะ

“คุณเลือกให้แต่ละวันมีเวลาเพิ่มไม่ได้ แต่คุณเลือกได้ว่าจะใช้เวลาที่คุณมีอยู่ยังไง”

เล่นเกมฝึกภาษาอังกฤษ

ถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลา เพราะชอบนั่งคุย หรือเล่นเกมกับเพื่อน หรือแฟน ก็ใช้เวลานั้นนั่นแหละค่ะ ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวด้วยเลย

เพราะว่ามีเกมอย่างเลยที่คุณเล่นเป็นภาษาอังกฤษได้ เช่น การ์ดอูโน่ บิงโก หรือใบ้คำภาษาอังกฤษ และก็ใช้คำศัพท์ง่าย ๆ เช่น สี ตัวเลข หรือประโยคสั้น ๆ

ข้างบนนี้เป็นรูปที่เบญชวนเพื่อน ๆ มาเล่นอูโน่ที่ห้องค่ะ และเราก็ได้ฝึกภาษาอังกฤษไปด้วยเล็ก ๆ น้อย ๆ บอกได้ดเลยว่าจะได้ใช้เวลากับเพื่อน ได้ความสนุก และได้เก่งภาษาอังกฤษเพิ่มแน่นอน

ใช้การ์ดคำศัพท์ฝึกภาษาอังกฤษ

ถ้าคุณไม่เคยใช้การ์ดคำศัพท์ หรือที่คนชอบเรียกกันว่า Flashcard มาก่อน จะบอกเลยค่ะว่าดีมาก ๆ และคุณก็พกไปไหนมาไหนในกระเป๋าด้วยได้

ไอเดียง่าย ๆ ก็คือการเขียนคำศัพท์ หรือประโยคสั้น ๆ ลงบนแผ่นกระดาษ และเอาขึ้นมาฝึกออกเสียง หรืออ่านตอนที่ตัวเองว่างค่ะ

เบญได้เขียนอธิบายว่ามันคืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง และหาได้จากที่ไหน ลองเข้าไปอ่านเพิ่มเติมดูนะคะ ฝึกภาษาอังกฤษจากการ์ดคำศัพท์ >

ฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูหนัง

อย่าบอกนะคะ ว่าคุณไม่ชอบดูหนัง เพราะว่าจากหลายคนที่เบญได้รู้จักมาในชีวิต ยังไม่มีสักคนเลยที่บอกว่าไม่ชอบดูหนังเวลาที่มีเวลาว่าง

ขอแนะนำให้คุณดูหนังภาษาอังกฤษ และเปิดซัพภาษาอังกฤษไปด้วยค่ะ เพราะนอกจากที่จะช่วยเรื่องการฟังภาษาอังกฤษของคุณแล้ว คุณจะจำคำศัพท์ได้ และรู้จักวิธีการออกเสียงที่ถูกต้องของคำนั้น

และสิ่งที่เบญชอบมาก ๆ ในการดูหนังภาษาอังกฤษก็คือว่า คุณจะได้เรียนรู้คำแสลงภาษาอังกฤษ และประโยคที่คนใช้กันจริง ๆ ในชีวิตประจำวันค่ะ

3. เน้นการสนทนาภาษาอังกฤษมากกว่าแกรมม่า

ไม่ใช่เบญคนเดียวแน่นอนที่เรียนแต่แกรมม่าที่โรงเรียน เพราะคุณครูบอกว่าแกรมม่าจะทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง

แต่สิ่งที่คุณครูไม่ได้บอกเราก็คือ เราจะพูดเหมือนกูเกิ้ลแปลภาษา และเราจะพูดไม่ออก เพราะมัวแต่นึกว่าถ้าจะพูดแบบนี้ ต้องใช้หลักไวยากรณ์แบบไหนกันนะ สุดท้ายคนที่คุยด้วยก็เดินหายไปแล้ว อดซะงั้น!

เลยอยากที่จะแนะนำให้คุณเน้นเรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษ เน้นเรื่องการสนทนาภาษาอังกฤษ ฝึกประโยคภาษาอังกฤษมากกว่าการเสียเวลาไปนั่งจำแกรมม่าค่ะ

ด้วยประสบการณ์โดยตรงแล้ว บอกได้เลยว่าคนที่พูดภาษาอังกฤษได้เก่ง ไม่ใช่เพราะเค้านั่งจำแกรมม่าได้ทั้งหมด แต่พูดออกมาจากความเคยชิน เพราะฝึกบ่อย

4. เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

อย่างที่บอกนะคะ ว่าเบญรู้ว่าคนวัยทำงานอย่างคุณ ไม่ได้มีเวลาไปโรงเรียนสอนภาษาวันละ 1-2 ชั่วโมง บวกค่าเดินทางอีกบางทีก็น่าจะนานกว่านั้นด้วยซ้ำ

แต่ยังไงถ้าคุณอยากเก่งภาษาอังกฤษ นอกจากฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองตามเคล็ดลับข้างบนแล้ว คุณเอาก็ยังต้องเรียนภาษาอังกฤษแบบเป็นหลักเป็นแหล่งค่ะ

มันจะทำให้การพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณนั้นต่อเนื่อง และก็วัดได้ว่าคุณได้พัฒนาขึ้นจริง ๆ ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ และไม่ได้ฝึกภาษาอังกฤษแบบมั่ว ๆ

แต่ถ้าคุณจะเลือกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษดี ๆ สักคอร์ส เบญขอแนะนำเป็นออนไลน์ค่ะ เพราะว่า…

→ คุณจัดตารางเวลาเรียนเองได้

→ คุณไม่ต้องเสียเวลานั่งรถไปที่โรงเรียน

→ คุณจะได้เรียนภาษาอังกฤษหลักสูตรจากเจ้าของภาษาแท้ ๆ

และอีกหลากหลายเหตุผลที่พูดวันนี้ก็คงไม่หมด เพราะบอกไว้เลยว่า ถ้าคุณได้ลองเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แล้ว คุณจะไม่เปลี่ยนใจกับไปเรียนที่โรงเรียนอีกแน่นอน

อย่าลืมเลือกสำเนียงที่คุณอยากเก่ง และก็เข้าไปเลือกคอร์สเรียนที่ตัวเองชอบมากที่สุดได้เลยค่ะ เบญได้เขียนรายละเอียดคร่าว ๆ ราคา และมีหน้าตาของคอร์สให้ดูด้วยจ้า

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันออนไลน์

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำเนียงบริทิชออนไลน์

5. หาโอกาสใช้ภาษาอังกฤษให้ได้มากที่สุด

ที่บ้าน ที่ทำงาน ที่งานปาร์ตี้ ที่ต่างประเทศ หรือที่ไหนก็ตามที่คุณมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษ อย่าพลาดโอกาสที่จะคว้าไว้นะคะ

เพราะไม่ว่าคุณจะฝึกภาษาอังกฤษมากี่ปี รู้จักคำศัพท์ ประโยคมากแค่ไหน แต่ไม่เคยได้ใช้เลย วันนึงคุณก็จะลืม หรือไม่ก็ถอดใจหยุดเรียนภาษาอังกกฤษไปเลย

ฉะนั้นถ้าได้เจอต่างชาติ อย่ากลัวที่จะใช้ภาษาอังกฤษที่ฝึกมาค่ะ คุณอาจจะกล้า ๆ กลัว ๆ ในตอนแรก นึกคำไม่ออก ฟังไม่ทัน เป็นเรื่องปกติมาก

คุณอาจจะบอกว่า แล้วถ้าฉันไม่ได้เจอต่างชาติเลย ไม่มีใครให้ใช้ภาษาอังกฤษด้วยล่ะ?

ข่าวดีก็คือ เบญมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวที่เบญชอบมาก ๆ ที่จะมาแนะนำให้คุณค่ะ เป็นคอร์สที่คุณเลือกครูเจ้าของภาษาได้ด้วยตัวเอง และราคาดีมาก ๆ

→ iTalki

→ Cambly

2 คอร์สนี้เป็นคอร์สที่เบญได้เข้าไปฝึกใช้ภาษาอังกฤษด้วยบ่อย ๆ และบอกได้เลยว่าคุณครูใจดี และใจเย็นกับเรามาก

แรก ๆ เบญก็นึกไม่ออกเลยค่ะว่าต้องตอบอะไรเพราะตื่นเต้น แต่พอได้เข้าไปฝึกบ่อย ๆ ขึ้น เบญก็เริ่มชินกับการเจอหน้าฝรั่ง และพูดคุยเหมือนปกติเลย

ขอกระซิบด้วยว่าเป็นคอร์สที่มีให้เลือกตั้งแต่ 15, 30 และก็ 1 ชั่วโมง แปลว่าต่อให้คุณมีเวลาน้อยขนาดไหน ก็เข้าไปฝึกได้เลยค่ะ

กุญแจสำคัญอยู่ที่การฝึกบ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่การฝึกนาน ๆ

ถ้าไม่มีเพื่อนฝรั่งไม่ต้องกลัวนะคะ คุณครูเค้าจะเป็นเพื่อนให้เราเอง และรับรองได้เลยว่า คุณจะมีความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษของตัวเองมากขึ้นแน่ ๆ

6. ไม่ต้องอาย และไม่ต้องกลัวที่จะพูดผิด

เชื่อได้ว่าทุกคนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษ จะต้องผ่านจุดน้มาก่อน ที่ไม่อยากพูด ไม่อยากใช้ภาษาอังกฤษเพราะว่ากลัวว่าจะพูดผิด หรือว่าไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร

เบญบอกได้เลยนะคะว่า ไม่ต้องอาย และไม่ต้องกลัวเลยค่ะ ความผิดพลาดจะเป็นหนึ่งในบทเรียนของเรา ทำให้เราได้เรียนรู้ และแก้ตัวใหม่ในอนาคต

คนที่ไม่เคยทำผิด ก็คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย แต่คุณกำลังพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ กำลังก้าวไปข้างหน้า แน่นอนว่าต้องพูดผิดอยู่แล้ว แต่ก็ยังดีกว่าไม่กล้าพูดเลยนะคะ

ไม่ว่าคุณจะพูดเป็นแค่ประโยคสั้น ๆ 2-3 คำ หรือว่าตอบได้แบบสั้น ๆ ในตอนนี้ ใช้ในสิ่งที่ตัวเองรู้ และเบญเชื่อว่าคุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองในอีกไม่ช้า

7. ตั้งเป้าหมาย ทำตาม และอย่ายอมแพ้

เคล็ดลับสุดท้ายนี้ อาจจะฟังดูเหมือนง่าย แต่ว่ามีหลายคนที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันที่อยากจะเก่งภาษาอังกฤษ เพราะไม่รู้ หรือรู้แล้วละเลยข้อนี้ค่ะ

ก็คือการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน จัดตารางเรียนภาษาอังกฤษ จัดตารางฝึกภาษาอังกฤษกับครูเจ้าของภาษา และตั้งเป้าหมายว่า เดือนนี้คุณอยากรู้จักคำศัพท์ใหม่กี่คำ

เพราะว่าคุณจะรู้สึกดีมาก เมื่อคุณมีเป้าหมาย และก็ทำมันได้ เป็นก้าวต่อก้าว แบบไม่ต้องกดดันตัวเองมาก แต่ก็ยังรู้ว่าตัวเองกำลังเดินไปข้างหน้า และใกล้กับความฝันมากยิ่งขึ้น

และเบญบอกไว้เลยค่ะ ว่าการเก่งภาษาอังกฤษใช้เวลา และต้องมีความอดทนจริง ๆ

มันไม่ได้ง่าย และปุบปับเหมือนที่โรงเรียนภาษาโฆษณาไว้เลย แต่เราสนุกกับมัน และให้รางวัลตัวเองละหว่างทางได้

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่ายอมแพ้นะคะ คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณพยายามเรียนภาษามาหลายปีแล้ว ภาษาอังกฤษของยังไม่ไปไหนสักที

ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้นอาจจะเป้นเพราะคุณไม่ได้วางเป้าหมาย และทำตามตารางที่ตัวเองตั้งใจไว้จริง ๆ ค่ะ เพราะเบญเชื่อว่าทุกคนเก่งภาษาได้ถ้าตั้งใจและลงมือทำจริง ๆ

หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณนะคะ และถ้าคุณเป็นอีกคนที่อยู่ในวัยทำงาน และอยากเก่งภาษาอังกฤษ แต่ก็มีปัญหามากมายที่กำลังเจออยู่

เขียนคอมเม้นแบ่งปันไว้ให้เบญ และเพื่อน ๆ คนอื่นอ่านได้นะคะ เบญเชื่อว่าเราเดินทางเดียวกัน เข้าใจหัวอกกันและกัน และเป็นกำลังใจให้กันได้ค่ะ