เรียนภาษาอังกฤษ ยากค่ะ!! โดยเฉพาะช่วง 1-6 เดือนแรก จะเป็นช่วงปรับตัว และเป็นช่วงที่ยากที่สุดของการเรียนภาษาอังกฤษ แต่คุณเรียนได้แน่นอน ถ้ามีเคล็ดลับนี้!
แม้จะเป็นช่วงที่ใครหลาย ๆ คนถอดใจ หยุดเรียนภาษาอังกฤษไป เพราะคิดว่ายังไงตัวเองก็ไม่มีวันทำได้ หรือรู้สึกว่าตัวเองย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนาขึ้นสักที
เหตุผลหลัก ๆ ที่คนไทยอย่างเราคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษยากก็คือ:
● ฟังสำเนียงเจ้าของภาษาไม่ออก เพราะเรียนมากับครูไทย
● ไม่กล้าพูด เพราะไม่มีความมั่นใจ กลัวพูดผิดแล้วขายหน้า
● อยากฝึกพูด-ฟังภาษาอังกฤษบ่อย ๆ แต่ไม่รู้ต้องฝึกกับใคร/ที่ไหน
● มีปัญหากับการออกเสียง พูดแล้วฝรั่งงง
● แกรมม่าซับซ้อนมาก ท่องแล้ว ก็ยังเอามาใช้ไม่ถูก
และปัญหาอีกมากมายหลายประการ ที่วันนี้เบญเขียนไปทั้งหน้านี้ก็คงไม่หมด
ความจริงก็คือ ใช่ค่ะ การเรียนอะไรสักอย่างมันยาก เพราะเราต้องเริ่มมีระเบียบวินัย และทำมันอย่างสม่ำเสมอ บางครั้งใช้เวลานานกว่าจะเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น การเรียนภาษาอังกฤษก็เช่นกัน
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อย่าเพิ่งปิดหนีไปนะคะ เพราะว่าเบญจะบอกว่า.. เบญเองก็เคยเจอปัญหาแบบเดียวกับคุณเลย และเคยถอดใจไปวันละหลาย ๆ ครั้ง
จนกระทั่งเบญเองได้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษในแบบใหม่ และมันได้ผล มันสนุก และมันไม่ต้องเสียเงินเยอะมากมาย
เบญเชื่อว่าถ้าคุณอ่านโพสต์นี้จบ และทำตามคำแนะนำของเบญ คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของภาษาอังกฤษของคุณแน่นอน
ใช่ค่ะ มันก็ยังจะรู้สึกยากอยู่ เพราะว่าอาจจะไม่ใช่ภาษาที่เราใช้ที่บ้านทุกวัน และมันก็มีอะไรหลายอย่างให้เราต้องจำ ฝึก และเอาไปใช้จริง ๆ
แต่ไม่ต้องห่วงเลยนะคะ รับรองว่าเคล็ดลับข้างล่างนี้ที่เบญเอามาฝาก ไม่ใช่แค่จะช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษของคุณง่ายขึ้น แต่จะช่วยให้คุณเริ่มพูดได้ เริ่มใช้เป็น และสำเนียงเป๊ะเหมือนเจ้าของภาษาเลยค่ะ!
คุณแค่ต้องตัดสินใจวันนี้ ว่าฉันจะให้โอกาสการเรียนภาษาอังกฤษที่ถูกต้องแบบนี้อีกครั้ง และเริ่มทำมันจริง ๆ
1. เลือกคอร์สที่ถูกต้อง และเหมาะกับตัวเอง
การเรียนภาษาอังกฤษจะไม่รู้สึกทรมาน หรือยากเกินไป ถ้าคุณได้เจอกับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดี และเหมาะกับคุณ
แต่ก่อนอื่นเลย คุณเองต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณอยากเรียนแบบไหน และอยากเรียนภาษาอังกฤษสำเนียงอะไร อเมริกัน หรือบริทิช
ข่าวดีก็คือ คอร์สที่เบญเอามาแนะนำให้ข้างล่างนี้ มีทุกสำเนียงที่คุณอยากเรียนเลย!!
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวกับครูฝรั่ง
เบญแนะนำเป็น iTalki ที่มีครูให้เลือกเรียนด้วยเยอะมาก ราคาไม่แพงมาก และคุณบอกคุณครูได้เลยว่าอยากเน้นเรื่องอะไร ตรงจุด และสะดวกมาก ๆ
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่มกับครูฝรั่ง
มาแรง และอยู่ในใจของเบญมากที่สุด Lingoda มีกลุ่มย่อย ๆ ให้เราได้เลือกเรียน ตามระดับภาษาอังกฤษของเรา (มีให้ทดสอบฟรี) ได้เจอเพื่อนใหม่จากทั่วโลก และสนุกมาก
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่บ้าน
EnglishClass101 จะเป็นตัวช่วยให้คุณได้เรียนภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ มีหัวข้อให้เลือกเรียนเยอะ เน้นไปที่คำศัพท์และประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน
ทุกคอร์สที่เบญแนะนำไปข้างบนนั้น เป็นคอร์สที่เบญเรียนด้วยแล้ว ช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษนั้นง่ายขึ้นเยอะมาก และช่วยให้เก่งภาษาอังกฤษได้จริงอีกด้วย
เพราะฉะนั้นเลือกคอร์สที่คุณชอบมากที่สุด และลงทะเบียนได้เลยค่ะวันนี้
2. ไม่ต้องโฟกัสที่แกรมม่า
ถ้าคุณเป็นคนไทย น่าจะเข้าใจและเคยมีประสบการณ์ด้วยตัวเองมาเยอะแล้วว่า การนั่งท่องแกรมม่าภาษาอังกฤษไม่ได้ช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษขึ้นเลย
เมื่อคุณเอาแรง เงิน และเวลาของคุณทั้งหมดไปลงทุนกับการเรียนไวยากรณ์ คุณก็จะรู้สึกว่าภาษาอังกฤษยากมาก และเรียนเท่าไหร่ก็ไม่มีความก้าวหน้าสักที
หนึ่งในเคล็ดลับที่จะทำให้คุณเก่งภาษาอังกฤษไว ก็คือ การเรียนประโยคภาษาอังกฤษ เพราะมันจะช่วยให้คุณรู้ว่าต้องพูดยังไง ถามยังไง ตอบยังไง
บอกได้เลยว่าแค่คุณเรียนบทสนทนาภาษาอังกฤษ 2-3 หัวข้อ และเอาไปใช้จริง คุณจะรู้สึกว่า เอ้อ จริง ๆ ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะ
ซึ่งคุณจะไปเรียนตามคอร์สเรียนภาษาอังกฤษอันไหนก็ได้ที่เบญแนะนำข้างบน เพราะเค้าเน้นเรื่องประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน และเรียนเพิ่มได้ที่…
● บทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร
● คุยภาษาอังกฤษกับเพื่อนบนโทรศัพท์
● ประโยคคำถามภาษาอังกฤษที่ได้ยินบ่อย
3. ฝึกออกเสียงบ่อย ๆ ช่วยสำเนียงเป๊ะ
สิ่งนึงที่คนไทยมักชอบมองข้ามเวลาเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ก็คือการออกเสียงเหมือนเจ้าของภาษา เพราะบางครั้งเราคิดว่าไม่ว่าจะพูดสำเนียงอะไรเค้าก็จะเข้าใจ
แต่การออกเสียงผิด หรือออกเสียงไม่ครบทำให้ความหมายเปลี่ยน และยากที่จะเข้าใจ
การออกเสียงภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น แค่คุณต้องฝึกบ่อย ๆ และลบการออกเสียงที่เคยเรียนจากโรงเรียนออกให้หมด และกล้าที่จะดูกระเดะค่ะ
เบญเขียนเคล็ดลับการออกเสียงไว้ให้อ่านเพิ่ม และทำตามแล้ว >> เข้าไปดูได้เลยน๊า
4. หาครูฝรั่งช่วยฝึกพูด-ฟังให้
ตัวช่วยที่จะลดความซับซ้อนในการเรียนภาษาอังกฤษให้กับคุณก็คือ..
การเรียนกับครูเจ้าของภาษาค่ะ และการหาครูฝรั่งที่คุณชอบก็ทำได้ไม่ยากเลย
เพราะคุณจะได้ทุกอย่างจากการเรียนนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ ประโยค การออกเสียง และการฟัง แถมคุณยังรู้อีกด้วยว่าสิ่งที่คุณเรียนนั้นถูกต้อง 100%
iTalki ช่วยให้เบญรู้ว่า ต่อให้คุณพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ก็เรียนกับครูฝรั่งได้ แถมยังจะช่วยให้คุณพูดได้เก่งเร็วขึ้นหลายเท่าอีกด้วยนะ

คุณครูจะเตรียมบทเรียน การบ้าน และแบบฝึกหัดไว้ให้คุณครบเลย ทีนี้รับรองเลยค่ะว่าคำว่า เรียนภาษาอังกฤษยากจัง จะไม่อยู่ในพจนานุกรมของคุณอีกต่อไป!
5. เรียนอย่างสม่ำเสมอ จัดเวลาให้ดี
กุญแจสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ คือการใช้เวลาเรียนอย่างสม่ำเสมอ
มีหลายครั้ง ที่ความยากของการเรียนภาษาอังกฤษก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่เรามี เพราะเบญรู้ว่าทุกคนก็ยุ่งหลายอย่าง งาน เรียน ครอบครับ ชีวิตส่วนตัว
แต่เชื่อเบญเลยค่ะ ถ้าคุณลองจัดตารางดี ๆ ให้กับตัวเอง แค่วันละ 30 นาที หรือมากกว่านั้นถ้าคุณมีเวลา คุณจะรู้ว่าวันนึงเราเสียเวลาไปกับการเลื่อนโทรศัพท์ หรือแค่นั่งง่วง ๆ ไปเยอะมาก
ทุกคอร์สเรียนที่เบญแนะนำให้ในโพสต์นี้ เป็นคอร์สที่คุณเรียนที่บ้านได้ และจัดตารางเวลาเรียนได้เอง
เบญเลยเชื่อว่า มันจะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษของคุณง่ายขึ้นอย่างเยอะมาก ๆ เลยค่ะ
6. เข้าเรียนแบบกลุ่ม เพิ่มแรงบันดาลใจ
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่รู้สึกกลัวภาษาอังกฤษ กลัวที่ต้องอยู่กับครูฝรั่งตัวต่อตัว งั้นต้องลองเข้าไปเรียนแบบกลุ่มเลยค่ะ เพราะมันเปิดโลก และสนุกมากจริง ๆ
บางครั้งหลายคนคิดว่า เรียนภาษาอังกฤษยากเพราะมันน่าเบื่อต้องนั่งเรียนที่บ้านเงียบ ๆ หรือที่โรงเรียนกับหนังสือ แต่ที่เบญได้เจอกับตัวเองตอนที่เรียนกับ Lingoda ไม่ใช่แบบนั้นเลย

การเรียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่ม ทำให้เรามีแรงบันดาลใจเพิ่มขึ้น เพราะเราจะได้เจอกับคนอื่นที่ฝันอยากเก่งภาษาอังกฤษเหมือนเรา ทำให้เราอยากที่จะพยายามมากขึ้น
แถมเป็นการเรียนที่สบาย ๆ ไม่กดดัน แต่คุณครูดูแลอย่างทั่วถึง และไม่มีใครมานั่งตัดสินคุณเลยค่ะ ว่าพูดถูกหรือผิด หรือเก่งขนาดไหน
7. บันทึกความสำเร็จ และให้รางวัลตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะเล็ก ๆ เช่น ฉันจำคำศัพท์ใหม่ได้ 5 คำ หรือชัยชนะใหญ่ ๆ เช่น วันนี้ฉันคุยกับฝรั่งรู้เรื่องนานกว่า 10 นาที คุณควรฉลองให้กับตัวเองค่ะ
หลายครั้งที่เรามัวแต่รอการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆ หรือการพัฒนาที่เห็นได้ชัดมาก ๆ จนเราลืมไปว่า ทุกสิ่งเล็ก ๆ เราเองก็ได้มาด้วยความพยายามที่หนักมากเหมือนกัน
ทุกครั้งที่เราตั้งเป้าหมาย และเราทำได้ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรที่จะบันทึกไว้ด้วยค่ะ และก็ให้รางวัลกับตัวเอง เช่น ชานมไข่มุก ออกไปเที่ยวเล่น หรือแม้แต่ไปเที่ยวต่างประเทศ
เบญคิดว่า มันเป็นการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนกว่า และเราก็จะสนุกไปด้วยในทุก ๆ ก้าวของการเรียนภาษาอังกฤษ
ถ้าวันนี้เป็นวันแรกที่คุณเริ่มตัดสินใจจริงจังกับการเรียนภาษาอังกฤษ เบญขอเป็นกำลังใจให้นะคะ แม้ว่าแส้นทางนี้อาจจะไม่ได้ง่าย แต่มันคุ้มมากจริง ๆ ❤️❤️