7 เหตุผล ทำไมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักที + วิธีแก้ทำตามได้ง่ายๆ

เรียนภาษาอังกฤษมาครึ่งชีวิตแล้ว แต่ก็ยังพูดไม่ได้สักที?

อ่านออก เขียนได้ แต่เจอฝรั่งทีไร ปากปิดสนิทไม่ขยับเลย?

ลองพูดภาษาอังกฤษแล้ว ไม่มีใครเข้าใจ เลยเลิกพูดไปละ?

ถ้านี่คือสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ มันตามหลอกหลอนคุณไปถึงในฝัน และแอบกระซิบข้างหูคุณว่า “ชาตินี้คุณก็ไม่มีวันพูดภาษาอังกฤษได้หรอก”

แต่คุณก็ยังยืนยันที่จะลบคำสบประมาทนั้น และพูดภาษาอังกฤษให้ได้!

คุณมาถูกที่แล้วค่ะ

เบญได้รวบรวม 7 เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้คุณยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักทีมาให้ดู

แต่ไม่ใช่แค่นั้น เบญได้หาวิธีแก้ ที่จะช่วยให้คุณหลุดออกจากตรงนั้น และไปถึงฝั่งฝันได้ด้วย

รับรองเลยว่าถ้าคุณอ่านโพสต์นี้จนจบ ทำตามวิธีที่เบญแนะนำ คุณจะเริ่มพูดภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจในไม่ช้านี้เลย!!

พร้อมแล้วไปลุยกัน…

1. ไม่ได้ฝึกพูด ฟังกับเจ้าของภาษา 🤐

คุณอาจจะเป็นเหมือนเบญที่โตมากับโรงเรียนที่ครูสอนภาษาอังกฤษเป็นคนไทย ซึ่งไม่ได้แย่อะไรนะคะ

แต่พอครูเป็นคนไทย เราก็จะไม่พยายามพูดภาษาอังกฤษกับครู หรือครูก็จะแปลไทยให้ตลอด ทำให้เราไม่ได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษจริง ๆ ในชั่วโมงเรียน

ทำให้เรากลัวฝรั่ง ไม่มั่นใจ และไม่กล้าพูดไปในที่สุด

วิธีแก้ – ฝึกพูดฟัง กับเจ้าของภาษา อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ชม.

อ๊ะ ๆ อย่างเพิ่งหนีไป เพราะคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาจะต้องน่ากลัว และแพงเสมอไป

เพราะแปลว่าคุณเองยังไม่รู้จัก คอร์สฝึกพูดภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่เบญรวบรวมไว้ให้อย่างแน่นอน

บอกเลยว่าเรียนง่าย ครูใจดี เลือกครูได้เอง และราคาถูก เริ่มต้นแค่ 100 ต้น ๆ เท่านั้น!

คอร์สที่เบญชอบที่สุดคือ iTalki ที่ทำให้เราได้ฝึกพูด ฟังกับครูเจ้าของภาษาเต็ม ๆ ทั้งชั่วโมง

เพราะแม้แต่ว่าคุณจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ก็เรียนกับคอร์สนี้ได้ อยู่อย่างคอมเม้นจากคนที่เรียนจริงข้างล่างนี้สิคะ

เพราะฉะนั้นรับรองว่าถ้าเรียนอย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะฟังสำเนียงฝรั่งออก และกล้าพูดโต้ตอบมากขึ้นอย่างแน่นอน

2. ท่องแต่แกรมม่า 🧐

เมื่อคุณโฟกัสไปที่แค่หลักไวยากรณ์ จะทำให้คุณรู้ว่าต้องแต่งประโยคยังไงให้ถูกต้อง แต่เวลาพูดคุณจะฟังเหมือนหุ่นยนต์

หรือบางครั้งเวลาตอนไปพูดจริง ๆ ก็ดันลืมที่ท่องมาซะงั้น (เชื่อว่าคุณเองก็เคยเป็น)

ทำให้คะแนนแกรมม่า หรือการเขียนภาษาอังกฤษเต็ม 💯 แต่การพูดติดลบ 😢

วิธีแก้ – เน้นไปที่ประโยค และบทสนทนาภาษาอังกฤษ

ฝึกอ่าน จำ และเอาประโยคภาษาอังกฤษไปใช้ จะทำให้คุณได้ทั้งการพูดสนทนา และได้แกรมม่าไปในตัวด้วย โดยที่ไม่ต้องท่องเลย

แกรมม่านั้นจะมาแบบอัตโนมัติ เมื่อเรารู้ว่าประโยคภาษาอังกฤษนี้ พูดได้ยังไง

ที่สำคัญเลย คือการอ่านออกเสียงตามไปด้วย เวลาที่ต้องใช้จริงก็จะไม่ต้องคิดนานอีกต่อไปจ้า

เบญเองได้รวบรวมประโยคภาษาอังกฤษ และบทสนทนาภาษาอังกฤษมาไว้ให้อ่านกันค่า

อย่าลืมลองไปฝึกแต่งประโยคง่าย ๆ ด้วยตัวเอง จากประโยคที่ได้อ่านไปด้วยน๊า จะยิ่งทำให้คุณเข้าใจมากขึ้น

3. กลัวสำเนียงไม่ได้ 😬

คุณอาจจะเคยลองพูดภาษาอังกฤษกับฝรั่งมาก่อน แล้วเค้าไม่เข้าใจ เลยทำให้คุณรู้สึกว่า เป็นเพราะคุณสำเนียงไม่ดีหรือเปล่า

ขอบอกตรง ๆ เลยว่า สิ่งที่ทำให้ฝรั่งฟังเราไม่เข้าใจ ไม่ใช่เพราะสำเนียง แต่เป็นเพราะการออกเสียงของเรามากกว่าค่ะ

เพราะในภาษาอังกฤษมีหลายคำที่ใช้พญัชนะตัวเดียวกัน สระเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ตัวสะกด

ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นคำว่า right แล้วเราออกเสียง ไล้ (เพราะเสียง r ไม่เหมือน ร) คนฟังก็จะไม่แน่ใจว่า เรากำลังหมายถึง right ถูก/ขวา หรือ light แสง

เพราะการออกเสียงที่ถูกต้อง คือ ไรทฺ แต่ r ต้องห่อลิ้น และออกเสียง t = ทึ ให้ชัดด้วย

วิธีแก้ – ฝึกออกเสียงใช้ชัด

นี่เป็นสิ่งที่ค่อนข้างท้าทายมากสำหรับคนไทย เพราะเราเรียนจากโรงเรียนมาว่า ตัวภาษาอังกฤษ แปลคาราโอเกะเป็นไทยได้ เช่น v = ว

แต่มันไม่ใช่เลย

มีหลายตัวของภาษาอังกฤษ ที่เทียบกับเสียงอักษรไทยไม่ได้

เข้าไปอ่านเคล็ดลับออกเสียงภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง และเชื่อว่าคุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในการพูดภาษาอังกฤษของตัวเองแน่นอน

และตอนนี้ที่คุณกำลังจะเริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษอีกรอบ ให้คุณเลือกสำเนียงที่คุณอยากพูดได้ และฝึกตามได้เลยตามข้างล่างนี้

การออกเสียงภาษาอังกฤษชัด ไม่ได้แปลว่าคุณกระแดะนะคะ แต่แปลว่าเวลาคุณพูด ฝรั่งไม่ต้องเดาว่าคุณพยายามจะพูดอะไร

4. ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม 😟

หลายครั้ง เราไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ เพราะว่ารู้สึกว่าตัวเองได้เรียนไปตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ พอโตขึ้นก็ไม่ได้เรียน คืนทิชเช่อไปหมดแล้ว

หรือว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เราเคยรู้นั้น ไม่ได้อัพเดทมาหลายสิบปี คำแสลงยิ่งฟังยิ่งงงเข้าไปใหญ่เลย

วิธีแก้ – หาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่เหมาะกับตัวเอง

ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะสมัยนี้มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์มากมาย ที่คุณเลือกแบบที่ตัวเองชอบได้เลย

เรียนได้ตามเวลาที่คุณว่าง และก็จ่ายในราคาที่ไหว (รับรองว่าถูกกว่าโรงเรียนสอนภาษาทั่วไปแน่ๆ)

และนี่คือ 3 คอร์สที่ดีที่สุด ที่ช่วยในเรื่องการพูดภาษาอังกฤษ:

1. คอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว

iTalki อย่างที่เบญได้พูดถึงไปข้างบนแล้ว คุณจะได้เรียนกับครูฝรั่งที่คุณเลือกเอง ผ่านทางวีดีโอคอลแบบส่วนตัวสุด ๆ

แถมบอกครูได้อีกด้วยนะ ว่าอยากเน้นเรื่องอะไร ครูจะจัดบทเรียนให้ตรงกับความต้องการ และตามระดับภาษาอังกฤษของคุณเลย

อ่านเพิ่ม: รีวิว iTalki

ดูคอร์ส: iTalki (ถ้าลงทะเบียน และทดลองเรียนจากลิงค์นี้ จะได้เครดิตฟรี $10 ไปเลยจ้า!)

2. คอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่ม

Lingoda จะให้คุณได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อนใหม่ ๆ จากทั่วโลก กลุ่มละไม่เกิน 5 คน และครูที่สอนก็เป็นครูเจ้าของภาษาที่ใจดีมาก ๆ

มีหัวข้อมากมายให้เลือกเรียน ตามระดับภาษาอังกฤษของเรา (มีแบบทดสอบระดับภาษาให้ทำฟรีด้วยนะ)

อ่านเพิ่ม: รีวิว Lingoda

ดูคอร์ส: Lingoda

3. คอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบเรียนด้วยตัวเอง

EnglishClass101 มีประโยค คำศัพท์ และตัวอย่างการสนทนาภาษาอังกฤษให้เลือกเรียนหลายหัวข้อ

และแบ่งเป็นท่อนสั้น ๆ ให้คุณฝึกฟัง และพูดตาม ให้แน่ใจว่าคุณออกเสียงได้เหมือนเจ้าของภาษาจริง ๆ อีกด้วย

อ่านเพิ่ม: รีวิว EnglishClass101

ดูคอร์ส: EnglishClass101

ถ้า 3 คอร์สนี้ยังไม่โดนใจ เข้าไปดูคอร์สเรียนภาษาอังกฤษอื่น ๆ ได้เลย เบญเชื่อว่าจะมีสักคอร์สที่เหมาะกับคุณแน่นอนค่ะ

จำไว้นะคะว่า การเรียนภาษานั้น ไม่มีวันสิ้นสุด จะมีสิ่งใหม่ คำศัพท์ใหม่มาให้เราเรียนเพิ่มเสมอ

5. กลัวพูดผิด ไม่มีความมั่นใจ 😰

คุณอาจจะเคยถูกล้อที่พูดผิด หรือว่าพูดแล้วฝรั่งไม่เข้าใจ

ทำให้คุณรู้สึกว่าการพูดภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่น่าอาย และน่ากลัว

หรือคุณอาจจะยังไม่เคยพูดเลย เพราะมัวแต่กลัวว่าจะใช้หลักไวยากรณ์ผิด จะออกเสียงผิด และจะรู้สึกขายหน้า

แต่เบญขอบอกไว้เลยว่า คนที่ไม่เคยทำอะไรผิด ก็คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย…

วิธีแก้ – ยอมรับในความผิดพลาด และเรียนรู้จากมัน

สั่งตัวเองให้เลิกกลัว และเลิกคิดว่าคนอื่นจะคิดยังไงนะ เพราะความจริงในโลกนี้ก็คือ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ก็จะมีคนคอยจับผิดอยู่แล้ว

แต่แทนที่จะกลัวคนแบบนั้น เราสู้กลับไปเลย โดยการมั่นใจในตัวเอง พูดในสิ่งที่เรียน และฝึกมา เพราะถ้ายิ่งใช้เท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเก่งขึ้นมากเท่านั้น

พูดผิด? แล้วไง ก็แค่พูดใหม่ และพูดถูกในครั้งต่อไป อย่างน้อยเราก็ได้บทเรียนใหม่กลับบ้าน

และการฝึกพูดกับครูเจ้าของภาษาจากคอร์สที่เบญแนะนำ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นด้วยนะ

6. คิดว่าภาษาอังกฤษยากและน่าเบื่อ 😒

ในความรู้สึกของคุณ อาจจะรู้สึกว่าทำไมภาษาอังกฤษยากมาก ไหนจะไวยากรณ์ ไหนจะการออกเสียง ไหนจะคำศัพท์เปลี่ยนรูปอีก

และอาจจะเป็นเพราะคุณเคยแต่เรียนภาษาอังกฤษกับครู และคอร์สที่น่าเบื่อ ที่ต้องนั่งฟังอย่างเดียว ไม่ได้โต้ตอบ ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย

ทำให้คุณไม่อยากไปต่อกับการเรียนภาษาอังกฤษ และไม่อยากเริ่มพูดภาษาอังกฤษ เพราะคิดว่าคงทำไม่ได้

วิธีแก้ – หาสิ่งที่ตัวชอบทำ หาวิธีเรียนที่ตัวเองชอบ

ในยุค 5G นี้ มีอะไรหลายอย่างที่เราทำได้ โดยที่ไม่ต้องไปนั่งหน้ากระดานดำ และจดตามเหมือนสมัยเรียน

และบอกเลยว่า ทุกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่เบญแนะนำไปข้างบนนั้น ไม่มีคอร์สไหนเลยที่น่าเบื่อ

เบญรับประกันได้! 🙌

เพราะเบญก็เป็นคนขี้เบื่อเหมือนกัน และไม่ชอบนั่งเรียนนาน ๆ หรือทำอะไรซ้ำ ๆ ถ้าคุณเป็นคนแนวเดียวกัน รับรองว่าเลือกคอร์สที่ตัวเองชอบ เรียนสนุกขึ้นแน่

และไม่ว่าคุณจะชอบทำกิจกรรมอะไร เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ก็แค่ใส่ภาษาอังกฤษเข้าไป จะทำให้คุณเอ็นจอยมากกว่าเดิม และไม่ต้องรู้สึกฝืน

ยังมีอีกหลายกิจกรรมเลยที่คุณทำได้ เพื่อที่จะช่วยให้การพูดภาษาอังกฤษของคุณดีขึ้น

อยู่ในข้อสุดท้ายนี่แหละจ้า…

7. ไม่ได้เจอภาษาอังกฤษบ่อยในชีวิตประจำวัน 😎

ข้อเสียของการไม่ได้ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศก็คือ เราไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา

และทุกอย่างในประเทศไทยก็เป็นภาษาไทย หรืออาจจะมีคำภาษาอังกฤษบ้าง

หรือเอาคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษมาใช้นะ แต่ก็ออกเสียงแบบไทยจ๋ามาก เลยลืมไปแล้ว ว่าออริจินอลเค้าออกเสียงยังไง

วิธีแก้ – เพิ่มภาษาอังกฤษเข้าไปในชีวิตประจำวัน

ในเมื่อเราไปอยู่ต่างประเทศที่เค้าใช้ภาษาอังกฤษตลอดไม่ได้

เราก็แค่สร้างบรรยากาศรอบตัวเราให้เป็นภาษาอังกฤษไปเลยสิคะ!

นอกจากที่คุณจะต้องพยายามพูดภาษาอังกฤษทุกครั้งที่มีโอกาส ฟังเพลงภาษาอังกฤษ หรือเปลี่ยนเมนูบนมือถือเป็นภาษาอังกฤษแล้ว

มีอีกหลายอย่างเลยที่คุณทำได้ เช่น

บอกได้เลยว่า แค่สิ่งเล็ก ๆ ที่คุณทำในชีวิตประจำวัน แต่เพิ่ม และเปลี่ยนให้มันเป็นภาษาอังกฤษ

คุณจะได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในการพูด และการใช้ภาษาอังกฤษของคุณแน่นอนเลยค่ะ